ข่าว'เรืองไกร'จ่อชงศาลปค.ไต่สวนฉุกเฉินระงับ149ปาร์ตี้ลิสต์ - kachon.com

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) เดินทางมายัง กกต.เพื่อเข้าให้ถ้อยคำกับทางคณะกรรมการสอบสวน ของ กกต.กรณีกล่าวหา ส.ส. 4 ราย ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภูมิใจไทย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พลังประชารัฐ นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ

โดยนายเรืองไกร กล่าวก่อนเข้าให้ถ้อยคำว่า ตนยังมีข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับผู้สมัครส.ส.บางรายที่ถือหุ้นบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ทำสื่ออย่างชัดเจน และยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่จนมาถึงปัจจุบันด้วย อีกทั้ง 13 คน ประกอบด้วยพรรคพลังประชารัฐ 7 คน คือน.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ทาโร่ ทาเลนท์ จำกัด จำนวน 1,500 หุ้น น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท รางวัลไทย จำกัด  9,000 หุ้น นายสิระ เจนจาคะ มีชื่อเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจํากัดไฮเทคออดิโอ โดยลงหุ้นเป็นเงิน 50,000 บาท น.ส.เกศกานดา อินช่วย มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทก้าวไกล ครีเอท จำกัด จำนวน 9,900 หุ้น นายศันสนะ สุริยะโยธิน มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ทีพีพี จำกัด จำนวน 2,500 หุ้น นายอรรถกร ศิริลัทธยากร มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัทวายเอ็ม จอมเทียน จำกัด จำนวน 2,500 หุ้น นายยุทธนาโพธสุธน มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบ้านไทยรีสอร์ท จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น ด้านพรรคประชาธิปัตย์ 6 คน คือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท วัฒนโสภณพนิช จำกัด จำนวน 50 หุ้น นายเกียรติ สิทธีอมร มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท โปร เอ็น โฮลดิ้งส์ จำกัด จำนวน 115,783หุ้น นายวีระชัย วีระเมธีกุล มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ศิริเมธีกุล จำกัด จำนวน 809,980 หุ้น นายประกอบ จิรกิติ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท พีแอนด์วี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดจำนวน 30,000 หุ้น นายสัญชัย อินทรสูต มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท นครสวรรค์สหธุรกิจ จำกัด จำนวน 1,500 หุ้น และร.ต.วิจิตร อยู่สุภาพ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท นครสวรรค์สหธุรกิจ จำกัด 4,375 หุ้น

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ตนจะใช้สิทธิในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งถือว่ามีส่วนได้เสียโดยตรง ไปยื่นศาลปกครอง เพื่อขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อระงับประกาศ ประกาศกกต.ที่รับรอง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อทั้ง 149 คน และเพิกถอนพร้อมสั่งให้ กกต.คำนวณ จัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เนื่องจากเห็นว่าการคำนวณของ กกต. ที่จัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้กับ 11 พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ได้คะแนน ไม่ถึงจำนวนส.ส.พึงมี ถือว่าเป็นการคำนวณที่ขัดกับ 

พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 ( 5 )โดยจะขอให้ศาลสั่งเพิกถอนประกาศ และให้ กกต.คำนวณใหม่ ซึ่งเชื่อว่ามีช่องทางที่ศาลจะรับคำร้อง เนื่องจากกรณีนี้แตกต่างจากกรณี นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย ไปร้องให้ศาลปกครองเพิกถอนมติระงับสิทธิสมัครชั่วคราว 1 ปี เพราะเป็นการใช้อำนาจของกกต. ตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งประเด็นดังกล่าวก็มีความชัดเจนในเรื่องการถวายเงินให้พระ จำนวน 2,000 บาท ถือเป็นความผิดพลาดของนายสุรพล เอง แต่กรณีที่ตนจะยื่นนั้นเป็นการใช้อำนาจของกกต. ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จึงหวังว่าศาลจะรับไว้พิจารณา และสั่งให้ไต่สวนฉุกเฉินรวมทั้งคุ้มครองชั่วคราว ส่วนการดำเนินคดีอาญากับกกต.เป็นสิทธิของผู้ที่ได้รับผลกระทบจะไปดำเนินการได้ ซึ่งเชื่อว่ามีหลายฝ่ายจองกฐินไว้แล้ว.