ข่าว"ธนาธร"ปลุกพลังส.ส.ร่วมมือปิดสวิตช์ส.ว. - kachon.com

"ธนาธร"ปลุกพลังส.ส.ร่วมมือปิดสวิตช์ส.ว.
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธนาธร จงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมารับหนังสือรับรอง ส.ส.  โดยนายธนาธร กล่าวว่า ตนขอสัญญากับประชาชนส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคนจะทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้อย่างเต็มความสามารถ ละให้สัญญาว่าส.ส.ทั้ง 80 คนจะไม่นำเงินภาษีของประชาชนเพื่อประโยชน์ส่วนตน ไม่มีการคอร์รัปชั่น จะไม่โออวดและไม่ใช้อำนาจที่ได้มาจากประชาชนทำให้ประเทศชาติเสียหาย  รวมทั้งจะทำการเมืองที่ดีสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงประเทศไทย ทั้งนี้ตนและแกนนำพรรคอนาคตใหม่มีความเชื่อมั่นว่าส.ส.ของพรรคทุกคน ยึดมั่นในอุดมการณ์ เราสร้างพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ทำเพื่อความฝันและอุดมการณ์เดียวกันที่อยากจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยมากกว่านี้  ดังนั้นเชื่อว่าด้วยความหนักแน่นทางอุดมการณ์ของพรรคจะไม่มีส.ส.คนใดที่ไปยกมือสนับสนุนให้กับเผด็จการสืบทอดอำนาจ แต่ยืนยันว่าไม่มีการให้ ส.ส.เซ็นต์ใบลาออกล่วงหน้าแต่อย่างใด

เมื่อถามว่าพรรคอนาคตใหม่ยังยืนยันที่จะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า การลงนามร่วมกันหลังการเลือกตั้งนั้นเป็นการสร้างแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.ส่วนการที่จะร่วมรัฐบาลกับใครยังอยู่ในขั้นตอนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ยังไม่มีข้อสรุป และการที่สังคมปักใจเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)จะจัดตั้งรัฐบาลได้นั้นก็เป็นเรื่องที่เกินไปเพราะพรรคพปชร. และพรรคที่เสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เพียง 121 เสียงเท่านั้น ถ้าต้องการให้มีเสียงเกิน 250 เสียง พรรคพปชร. จะต้องรวมเสียงกับพรรคที่เหลือทั้งหมด นอกจาก 7 พรรคการเมืองที่ร่วมลงสัตยาบันต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช. ซึ่งจะทำให้มีพรรคร่วมรัฐบาล 20 พรรค ซึ่งการเจรจาต่อรองกับ 20 พรรคการเมืองไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่าย ดังนั้นขอให้รอดูอีกสักพักเพราะทางพรรคอนาคตใหม่กำลังพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะยุติการสืบทอดอำนาจของคสช.  อย่างที่เคยประกาศเอาไว้ให้เป็นจริงให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามตนไม่เคยยืนยันว่าจะเสนอชื่อตนเองเป็นนายกฯ

เมื่อถามต่อว่าจะมีขั้วการเมืองใหม่เกิดขึ้นนอกเหนือจากขั้วพรรคพลังประชารัฐและขั้วพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนพูดอะไรไม่ได้มากจะต้องเคารพกับคนที่เรากำลังเจรจาด้วย การจะบอกว่าพูดคุยอะไรกับใครเอาไว้บ้างต่อสาธารณะในตอนนี้จะเป็นการไม่ให้เกียรติผู้ที่เจรจา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยนั้น เรื่องดังกล่าวขอให้เป็นการพูดคุยของพรรคการเมือง ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และไม่ขอตอบว่ามีการประสานหรือมีการพูดคุยไปแล้วหรือไม่ แต่เรายังเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวมีความเป็นไปได้ ในการยุติการสืบทอดอำนาจของคสช.ซึ่งเราพยายามทำตรงนี้ให้ได้โดยลดอัตรา ลดผลประโยชน์ส่วนตัว ลดเรื่องหน้าตาลงให้มากที่สุด เพื่อนำประเทศไทยออกจากปัญหาความขัดแย้ง เอาทหารกลับกรมกอง สร้างสังคมประชาธิปไตยกลับมาใหม่ในประเทศไทย และจะมีความชัดเจนในการก่อนการประชุมสภานัดแรกแน่นอน

“พรรคการเมืองที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งมีเพียง 3 พรรค มีเสียงในสภารวมกัน 121 คนหากรวมกับเสียง ส.ว. แล้วยังได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรัฐสภา 750 เสียง ผมอยากจะเรียกร้องให้พวกเราร่วมกันตรวจสอบว่าพรรคไหนหาเสียงเรื่องจุดยืนทางการเมืองไว้อย่างไร ถึงเวลาแล้วที่คนที่มาจากการเลือกของประชาชน จะยืนอยู่ฝั่งเดียวกับประชาชน ยืนอยู่อย่างตั้งมั่นในสิ่งที่หาเสียงกับประชาชน เราสามารถหยุดยั้งกลไก ส.ว.ได้ เพราะ378 เสียง ของส.ส.ย่อมเกินกึ่งหนึ่งของของรัฐสภา ส่วนใน 378 เสียงใครจะเป็นรัฐบาล ใครจะเป็นฝ่ายค้านก็ว่ากันไป แต่พวกเราสามารถหยุดยั้งการใช้อำนาจของ ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากประชาชนที่จะมาบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนได้ ยืนยันว่าสังคมไทยยังมีทางออก แต่เราจะเดินไปสู่ทางตันก็ต่อเมื่อเสียงของประชาชนไม่ได้รับการเคารพ และถูกบิดเบือนไป ”นายธนาธร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการทาบทามติดต่อตามข่าวจริงซึ่งมีส.ส.หลายท่านมาบอก และหากมีการทาบทามต่อเนื่องและมีความพยายามที่จะใช้วิธีดึงส.ส.จากพรรคอื่น เราอาจจะนำหลักฐานการทาบทามมาเปิดเผยให้เห็น แต่ยืนยันว่าส.ส.ที่ถูกทาบทามทุกคน จะไม่ไปแน่นอน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่ เรากำลังพุ่งตรงไปที่การหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ได้พูดกันถึงการจัดตั้งรัฐบาล หรือฝ่ายค้านเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดหากทุกพรรคการเมืองที่เคยได้หาเสียงเอาไว้ว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. วันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์สิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช.เพื่อมาตัดสินใจร่วมกันในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.โดยใช้สูตรการปิดสวิต ส.ว. ร่วมกันนำทหารออกจากการเมืองไทย

ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากนายธนาธร นายปิยบุตร และน.ส.พรรณิการ์ ได้เข้ารับหนังสือรับรองส.ส.จากกกต.แล้ว และสื่อมวลชนขอให้ชูหนังสือรับรองเพื่อบันทึกภาพ แต่ทั้ง   3 คนได้ปฏิเสธ โดยนายธนาธร ระบุว่ากระบวนกรดังกล่าวเป็นกระบวนการดังกล่าวเป็นการทำให้ครบถ้วนตามกฎหมายเท่านั้น แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็นส.ส.เกิดขึ้นตั้งแต่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา ไม่ใช่เกิดจากการรับรองของ กกต. จึงไม่ขอแสดงเอกสารดังกล่าว.