ข่าวพท.จี้ขั้วที่สาม"ปชป.-ภท.-ชทพ.-ชพ."ตัดสินใจให้เร็ว - kachon.com

พท.จี้ขั้วที่สาม"ปชป.-ภท.-ชทพ.-ชพ."ตัดสินใจให้เร็ว
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ 7 พรรคการเมืองที่เคยลงสัตยาบัน ยังคงเหนียวแน่น เราไม่ได้มีเจตรมณ์มารวมกันเพื่อตั้งรัฐบาลแล้วมานั่งแบ่งเค้กเก้าอี้รัฐมนตรี เราได้ประกาศชัดว่าเราไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ อีกรอบ เราไม่เห็นด้วยที่จะมีการสืบทอดอำนาจ   ประเด็นสำคัญคือ ขณะนี้การเมืองมีปัญหาอยู่ในภาวะไม่เป็นปกติ เลือกตั้งมาแล้วเกือบ 2 เดือน ก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อมาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ เพราะความไม่ปกติของกฎกติกาที่ออกแบบมาเพื่อการเลือกตั้งครั้งนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อเราร่วมมือกันแม้จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม แต่หากเราเป็นเสียงข้างมากในสภา และเป็นเสียงที่จัดตั้งรัฐบาลได้ เราก็จะดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหา 1.ไม่ให้ส.ว. มีอำนาจเข้ามาเลือกนายกฯ ซึ่งการเลือกนายกฯ จะต้องสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนที่ได้เลือกส.ส.ของเขาเข้ามา  2. การออกแบบกฎหมายเลือกตั้ง หรือการดำเนินการเลือกตั้ง ซึ่งนอกจากจะสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพขององค์กรที่จัดการเลือกตั้งแล้ว ยังสะท้อนถึงความไม่สมบูรณ์ขององค์กรและกติกาที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ดังนั้นเราจะแก้ไขให้กฎหมายเลือกตั้งไปสู่สภาวะปกติเพื่อให้กระบวนการเลือกตั้งสะท้อนเจตนารมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ 7 พรรคยังคงยืนยันในกรอบนี้และหาความเห็นชอบจากองค์กรต่างๆ ต่อไป

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้กำลังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ยืนยันว่าเสียงที่จะสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนมี 1. กลุ่มเจ็ดพรรคที่ผลักดันประชาธิปไตย 2. กลุ่มของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตนยังไม่เคยเห็นพรรคนี้จับมือกับพรรคต่างๆ แล้วแถลงว่าตนเองมีเสียงสนับสนุนเท่าไหร่ เท่าที่เห็นพรรคประกาศสนับสนุนประยุทธ์ มี 3 พรรคการเมืองรวมกันได้ 137เสียง ขณะที่ กลุ่มที่ 3 คือพรรค ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทบพัฒนา และชาติพัฒนา ยังไม่แสดงท่าทีทางการเมือง ดังนั้นเป็นเพียงความเชื่อและความอยากของพรรคพลังประชารัฐ ตราบใดที่ยังไม่สามารถมานั่งรวมกันและแถลงประกาศจับมือและมีเสียงเกิน 255 ได้ ก็ยังคงเป็นเพียงแค่ความอยากเฉพาะตน ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นฉันทานุมัติได้ 

เมื่อถามว่าจะสามารถรวมเสียงได้มากกว่า7พรรคที่มีอยู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลาเปลี่ยนแปลงตลอด และเรายังไม่หยุดคุย สิ่งที่เรานำเสนอคืออุดมการณ์ของทั้งเจ็ดพรรคที่ต้องการให้สังคมไทยหลุดพ้นจากปัญหา ดังนั้นใครที่เห็นตรงกับเราก็สามารถร่วมกันได้ ส่วนโอกาสจับมือกับกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ ภท. ชทพ. และ ชพ. ตนคิดว่าสิ่งสำคัญของการเป็นนักการเมืองและพรรคการเมือง คือเราต้องรับผิดชอบกับสิ่งทีได้พูดไว้กับประชาชน และการเมืองต้องอยู่กับปัจจุบัน และต้องอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน  ตนคิดว่าวันนี้เราเห็นกันอยู่แล้วว่าการเมืองมี 3 กลุ่มใหญ่ คือ ซีกประชาธิปไตยมี 245 เสียง ซีกพลังประชารัฐมี 137 เสียง และกลุ่มที่สามคือพรรคขนาดกลางมี 121 เสียง สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ต้องมาดูอุดมการณ์ของกลุ่มที่สามตรงกับกลุ่มไหน ก็สามารถไปร่วมมือกันได้ แต่อย่าใช้เวลาตัดสินใจนานมากเกินไป เพราะปัญหาของประชาชนมีมากไม่สามารถรอได้

เมื่อถามว่าได้ต่อสายคุยกับนายอนุทิน บ้างหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเมืองเป็นเพื่อนกันหมด เราเคารพทุกความคิด ให้แต่ละฝ่ายได้คิดว่าจะหาทางออกให้ประเทศอย่างไร ถือเป็นการพูดคุยหลายกลุ่มในหลายระดับ คงไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ 

เมื่อถามถึงปัญหางูเห่าที่อาจจะเกิดขึ้นพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า งูเห่าเกิดขึ้นจากกติกาที่ถูกออกแบบมาอย่างพิกลพิการ เมื่อไม่มีวินัยของพรรคไปควบคุมแล้วให้อิสระส.ส. คิดและตัดสินใจได้เอง เมื่อกติกาบิดเบี้ยวอย่างนี้ทำให้งูเห่าเกิดขึ้นได้ และเกิดได้ทุกพรรค กับพรรคเพื่อไทยก็เกิดได้ มันเกิดขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตามตนยังเชื่อมั่นในคนของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าส่วนใหญ่จะยึดมันในสิ่งทีเราทำและพูดมาตลอด ถ้าใครจะคิดเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้าที่มากหรือน้อยก็ตาม ก็อาจจะเห็นการตัดสินใจทางการเมืองครั้งสุดท้ายของชีวิตทางการเมืองของเขา.