'ธนาธร'รับมีการเจรจาจัดขั้วที่3ตั้งรัฐบาล
การเมือง


โดยนายธนาธร ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี ถึง การจัดอบรมส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (11 พ.ค.) ว่าจะมีอะไรที่ต้องกำชับเป็นพิเศษหรือไม่ ว่า การอบรมส.ส.ของพรรค ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันนี้และวันพรุ่งนี้(12 พ.ค.) โดยเนื้อหาการอบรมนั้นจะมีการติวเข้มเรื่องการพิจารณาตัวบทกฎหมาย ขอบเขต อำนาจหน้าที่ของส.ส. ซึ่งการอบรมครั้งนี้เราได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นเครื่องการันตีว่า เมื่อ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นส.ส.สมัยแรก ได้เข้าไปทำงานในสภาฯแล้ว จะเป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ

เมื่อถามถึง กระแสข่าวมีการเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลขั้วที่ 3 โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ เปลี่ยนทิศทางมาผลักดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกฯ พรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกฯ นายธนาธร กล่าวว่า ตามที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า ยังไม่สะดวกใจที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพูดคุย ตนอยากจะเคารพกลุ่มคนหรือพรรคการเมืองต่างๆที่เราพูดคุยด้วย ถ้าพูดรายละเอียดในตอนนี้ ก็ถือว่าเป็นการไม่เคารพกับอีกฝ่าย อีกทั้งจะเกิดความไม่เชื่อใจซึ่งกันและกัน วันนี้จึงยังไม่ขอชี้แจงรายละเอียด แต่ในอนาคต ถ้ามีความชัดเจน ทางพรรคอนาคตใหม่พร้อมจะแถลงทันที

เมื่อถามย้ำว่า พรรคอนาคตใหม่ยังยืนยันจะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า พรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)นั้น มีเสียงมากพอที่จะปิดสวิตช์ส.ว.ได้ ดังนั้น 378 เสียงที่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จึงมากกว่ากลุ่มพรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์และส.ว.250 คน ซึ่งเมื่อ 378 เสียงรวมกันได้แล้ว ก็ตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นฝ่านค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แล้วมายกมือเลือกนายกฯที่มาจาก 378 เสียงนี้ เท่ากับสามารถปิดสวิตช์ส.ว.ได้ และสุดท้ายนายกฯก็จะมาจากเสียงของประชาชน ส่วนความคืบหน้าของการปิดสวิตช์ส.ว.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุย ตนไม่ทราบว่าจะทำได้หรือไม่ แต่จะพยายามอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายธนาธร จะเข้าวางพานพุ่ม ได้ทักทายกับนายองอาจอย่างสนิทสนม โดยการกอดและตบไหล่.