ข่าวพปชร.ดีล'เสียงพิเศษ'ร่วมก๊วน กอดเก้าอี้'กษ.'แน่น - kachon.com

พปชร.ดีล'เสียงพิเศษ'ร่วมก๊วน กอดเก้าอี้'กษ.'แน่น
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. สำหรับความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้พรรคประชารัฐยังเดินหน้าจับขั้วกับพรรคการเมืองต่างๆ แต่คาดว่าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.)อย่างเป็นทางการจะเริ่มหลังจากการเลือกประธานรัฐสภาเสร็จ โดยทางพรรคมั่นใจว่าตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน และคะแนนเสียงจะมีมากกว่า 255 เสียง เพราะจะมีคะแนนเสียงพิเศษจากพรรคพันธมิตรคู่แข่งบางส่วน ที่ได้เจรจาพูดคุยเรื่องเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาลไปบ้างแล้ว โดยได้นัดพบปะหารือและทานข้าวกัน และมีส่วนหนึ่งสนใจที่จะมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย นอกจากนี้แกนนำพรรคยังเร่งพบปะกับบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคขนาดกลางและพรรคเล็กเพื่อรวบรวมเสียงให้มากที่สุด ให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จเนื่องจากมีความกังวลว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์อาจจะได้เสียงสนับสนุนไม่ครบ 52 เสียงจึงต้องเร่งดีลสำรองไว้ ซึ่งหากประชาธิปัตย์ ตกลงและมาทั้งหมด เสียงของการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะได้เกิน 260 เสียง

ในส่วนของการจัดสรรโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น บางกระทรวงที่พรรคมีแนวนโยบายที่ชัดเจนและโปรโมทเป็นแคมเปญหลักในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลพยายามต่อรองเพื่อของตำแหน่ง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ซึ่งเป็นกระทรวงหลักที่พรรคพลังประชารัฐเองต้องการใช้ขับเคลื่อนนโยบาย จึงอาจไม่สามารถแบ่งให้พรรคร่วมรัฐบาลได้ เพราะพรรคพลังประชารัฐได้รับปากกับชาวบ้านไว้ตอนหาเสียงและผลักดันไปแล้วในบางส่วนของช่วงรัฐบาลคสช. โดยเฉพาะโครงการข้าวที่อาจขัดแย้งกับนโยบายประกันราคาของประชาธิปัตย์ โดยนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐอย่าง เพิ่มชดเชยค่าเกี่ยวข้าว จาก 12 ไร่ เป็น 20 ไร่ ชดเชยจากไร่ละ 1,500 บาทเป็น 2,000บาท เกี่ยวปุ๊บรับ 4 หมื่น และเพิ่มค่าเกี่ยวข้าวเพิ่มอีก 3 หมื่น รวมเป็น 7 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีนโยบายเกี่ยวกับไร่ยาสูบอ้อย ปาล์มน้ำมันรวมถึงนโยบายที่ดินส.ป.ก.ด้วย

โดยทางพรรคพลังประชารัฐมองว่า หากไม่ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเหล่านี้ อาจจะกระทบถึงกระแสความนิยมและความเชื่อมั่นจากเกษตรกร โดยเฉพาะประชาชนในภาคอีสาน ภาคเหนือและภาคกลางที่เป็นฐานคะแนนหลัก ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ.