ข่าว"พิชัย"เสี้ยม"อนุทิน"รีบชิงนั่งนายกฯ เพราะได้ส.ส.มากสุดแล้ว - kachon.com

"พิชัย"เสี้ยม"อนุทิน"รีบชิงนั่งนายกฯ เพราะได้ส.ส.มากสุดแล้ว
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 12 พ.ค.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า อยากขอเตือนพรรคการเมืองทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง ที่เคยบอกไว้ว่าไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจเผด็จการ และไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ก็อยากให้ทำจริง พรรคการเมืองที่มีฐานประชาชนขนาดใหญ่ ควรจะทราบดีว่าประชาชนเลือกพรรคของตนมาเพราะเหตุใด ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาได้รับบทเรียนอะไรบ้าง ประเทศไทยเสียหายทางเศรษฐกิจมากมายขนาดไหนแล้ว ถ้ายังคิดสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ในอนาคตจะมีหน้าไปหาเสียงกับประชาชนว่าอย่างไร แล้วจะบอกลูกหลานอย่างไรเมื่อประเทศยังคงย่ำแย่ลงต่อไปอีกในอนาคต

นายพิชัย กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์น่าจะเรียนรู้บทเรียนได้ดีที่สุดจากการที่สมาชิกพรรคร่วมกันเป่านกหวีด จนต่อมาเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร และถูกแช่แข็งมากว่า 5 ปี พอเลือกตั้งเสร็จพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็เอาทั้งบุคลากรและคะแนนเสียงไปเกือบหมด จนพรรคประชาธิปัตย์ต้องประสบความล้มเหลวอย่างหนักครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพรรค แม้แต่ ส.ส. ใน กทม. ก็ยังไม่ได้สักคน หากยังพลิกลิ้นยอมไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ อนาคตของพรรคประชาธิปัตย์อาจจะถึงกับหมดสิ้นได้

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคภูมิใจไทยส่วนตัวแล้วเห็นว่ามีโอกาสสูงที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี อยากให้นายอนุทินได้ฟังเสียงของประชาชนจริงๆ ตามที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะสมของนายอนุทิน และคงจะไม่มีโอกาสแบบนี้บ่อยนักในชีวิต และโอกาสที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ก็เป็นไปได้อย่างมาก จึงอยากให้นายอนุทินพิจารณาให้ดี ในขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ต้องกลับมาพิจารณาตนเองว่าเหตุใดพรรคจึงได้ ส.ส. ต่ำกว่าการคาดหมายมาก ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่กลับประสบความสำเร็จอย่างมากในการเลือกตั้งครั้งนี้

“ผมเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองไทยไปอย่างมาก จึงอยากให้ทุกพรรคการเมืองได้ศึกษาแนวคิดของประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงให้ดีเพื่อใช้พัฒนาพรรคการเมืองของตนเองต่อไป โดยอยากเห็นการพัฒนาของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป ไม่ใช่พัฒนาระบอบเผด็จการในคราบประชาธิปไตย”นายพิชัย กล่าว.