"อภิรักษ์"ตอบ10ข้อพร้อมชิงผู้นำปชป.
การเมือง
-
สนับสนุนเนื่อหา
-
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รวม 10 คำถามจากสื่อมวลชนที่สอบถามมาเบื้องต้นถึงความพร้อมในการลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ 1.การฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิรักษ์ ระบุว่าตนจะทำงานเป็นทีม รวมพลังคนทุกรุ่นและทุกฝ่ายในพรรค ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงพรรคให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและสังคมยุคใหม่ ควบคู่กับการสืบสานอุดมการณ์ของพรรค รวมถึงส่งเสริมและต่อยอดบทบาทของเครือข่ายสาขาและสมาชิกพรรคด้วยการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และปรับปรุงการสื่อสารของพรรค โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ 2.กระแสความขัดแย้งภายในพรรค ซึ่งนายอภิรักษ์ ระบุว่า จะสร้างความไว้วางใจด้วยการรับฟังความคิดเห็นของคนทุกรุ่นและทุกฝ่ายในพรรค รวมถึงพร้อมจะพูดคุยกับทุกคน เพื่อรวมพลังความหลากหลายของคนในพรรค เชื่อมโยงกับเครือข่ายสังคมที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของพรรค 3.กลยุทธ์การบริหารพรรค ท่ามกลางปัญหาในแต่ละพื้นที่ โดยนายอภิรักษ์ ตอบว่า จะปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการพรรคให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการบริหาร รวบรวมข้อมูลความต้องการของประชาชนและเครือข่ายสาขาพรรคทั่วประเทศ รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคในการแก้ปัญหาให้ประชาชนแต่ละกลุ่มที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้ทีมงานในพื้นที่ในแต่ละจังหวัดและเขตเลือกตั้ง 4. หลักเกณฑ์และรายชื่อทีมที่จะดึงมาช่วยทำงาน นายอภิรักษ์ ระบุว่าพิจารณาจากประสบการณ์ความรู้ ความสามารถของแต่ละคน รวมถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานที่อยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลง ส่วนรายชื่อผู้ร่วมทีมที่จะมาร่วมเป็นที่ปรึกษาและสนับสนุนการทำงานในครั้งนี้ คือ การประสานการทำงานระหว่างสมาชิกพรรคและทีมที่ปรึกษา ซึ่งเรามีแนวร่วมและเครือข่ายครบรอบด้าน
5.การบริหารงานในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในสไตล์ของนายอภิรักษ์ ซึ่ง นายอภิรักษ์ ระบุว่า ตนเคยผ่านงานบริหารระดับสูงในองค์กรรัฐและเอกชนมาแล้ว ทำให้ตนสั่งสมประสบการณ์และความรู้อย่างลึกซึ้งในการบริหาร เพื่อให้องค์กรทำงานและเดินหน้าตามเป้าหมายได้ กลยุทธ์ที่ตนวางไว้ เมื่อเป็นหัวหน้าพรรค สิ่งที่ทำได้ทันที คือการบริหารจัดการสมัยใหม่โดยใช้เทคโนโลยียุคใหม่ในการทำงาน การตั้งเป้าหมายร่วมในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของสังคม และการทำงานเป็นทีม รวมพลังคนทุกกลุ่ม รวมถึงเครือข่ายต่างๆในสังคม 6.สำหรับ 3 สิ่งแรกที่จะทำถ้าได้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งนายอภิรักษ์ ตอบว่า จะเร่งปรับ 3 สิ่งหลัก คือ 1)โครงสร้างการบริหารจัดการพรรคให้ทันสมัย รวดเร็ว และปรับตัวได้ในสังคมยุคดิจิทัล 2) วางกลยุทธ์พรรคโดยใช้เทคโนโลยียุคใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน เพื่อสร้างพรรคให้กลับมาเป็นผู้นำในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจไทยบนพื้นฐานประชาธิปไตย และ 3)ใช้เครื่องมือการสื่อสารทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ในการสื่อสารให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม
7.การรักษาสมดุลภายในพรรค ระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ซึ่งนายอภิรักษ์กล่าวว่า จะผลักดันการทำงานที่เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคในทุกพื้นที่ ได้ส่งมอบภารกิจของตนเข้าส่วนกลาง เพื่อระดมกลยุทธ์และสื่อสารต่อสังคม รวมถึงจะประสานงานกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ของพรรค และเครือข่ายนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศด้วย 8.การนำพรรคไปร่วมหรือไม่ร่วม รัฐบาลนั้น นายอภิรักษ์กล่าวว่า การตัดสินใจของพรรคจะเกิดขึ้นจากมติของที่ประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และส.ส.ของพรรค ซึ่งจะเกิดหลังจากในวันที่ 15 พ.ค.นี้ 9.สิ่งที่อยากฝากสมาชิกพรรคผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 307 คน ซึ่งนายอภิรักษ์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนชาวประชาธิปัตย์ทุกคนมารวมพลังเปลี่ยนแปลงพรรคของเรา ให้ตอบสนองความต้องการของประชาชน ควบคู่กับการสืบสานเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรคในการทำงานด้วยความทุ่มเท ซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความสุขของคนไทย และความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยในอนาคต 10. ถ้าคะแนนเสียงที่ได้ไม่พอให้เป็นหัวหน้าพรรค จะเป็นอย่างไร ซึ่งนายอภิรักษ์ ยืนยันว่ายังมุ่งมั่นทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่เข้มแข็งต่อไป และยินดีส่งมอบแนวคิดการสร้างเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกสู่ภาคประชาชน รวมทั้งแนวคิดใช้เทคโนโลยีพลิกวิถีการทำงานให้พรรคเข้มแข็งให้แก่สมาชิกพรรคต่อไป.