'พีระพันธุ์'ยันไม่มีการแทรกแซงปชป.จากภายนอก
การเมือง
“ผมถึงบอกว่าไม่ว่าใครจะเป็นเลขาฯหรือตำแหน่งไหนไม่ได้เป็นผู้ทรงอิทธิพล หรือเป็นผู้มีอำนาจของพรรค ดังนั้นผมจึงให้ทีมงานไปตกลงกันเอาเองว่าใครจะอยู่ตำแหน่งไหน เพราะมีค่าเท่ากัน ทำงานเหมือนกันหมด ไม่ใช่แปลว่า พอคนนี้เป็นเลขาฯแล้วจะกลายเป็นหัวหน้าคนอื่น และหากผมได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคผมก็จะไม่ทำบทบาทเป็นหัวหน้า แต่จะเป็นเพื่อนร่วมงาน ไม่มีใครใหญ่กว่าใครโดยจะทำงานเป็นทีม หรือคณะไม่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในพรรค ”นายพีระพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าการที่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องของตัวบุคคลอาจจะกระทบต่อสมาชิกที่เป็นโหวตเตอร์ได้ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่กระทบ เพราะเวลานี้สมาชิกเข้าใจ และคิดว่าสิ่งที่ตนเสนอเป็นแนวทางใหม่ที่ต้องการเปิดกว้างให้สมาชิกมากขึ้น ส่วนที่มีข่าวว่านายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา จะมาเป็นเลขาฯในทีมของตนนั้น นายถาวรบอกว่าไม่รับตำแหน่ง แม้เพื่อนพิจารณาให้ก็ไม่รับ รวมถึงที่มีชื่อนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค ที่จะมาเป็นเลขาฯในทีมของตนก็ไม่มีเช่นกัน ซึ่งในเบื้องต้นตนให้เป็นเสรีภาพของสมาชิกที่จะเลือกว่าใครเหมาะสม ตนไม่มีสิทธิมาชี้นำเพราะต้องการให้เป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูพรรค
เมื่อถามว่าหากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค แล้วจะนำพาพรรคไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ หรือจะเป็นตามกระแสข่าวการเมืองขั้วที่ 3 ที่จะดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะตนไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แม้ตนเป็นหัวหน้าพรรคก็ตอบไม่ได้ เพราะข้อบังคับพรรคให้เป็นอำนาจของที่ประชุมส.ส.และกก.บห. และตนบอกแล้วว่าแม้จะเป็นหัวหน้าพรรคก็ขอให้ทุกอย่างอยู่ที่ที่ประชุม และหากตนเป็นหัวหน้าพรรคแล้วมีคนติดต่อมา หากแนวทางเป็นการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ปกป้องสถาบัน จงรักภักดีก็ไปกันได้ แต่ตนคนเดียวตัดสินใจไม่ได้ ต้องให้เพื่อนๆพิจารณาแล้วมีมติ และหากจะมีการเชิญมาก็ต้องดูว่าใครเป็นคนเชิญ เพราะวันนี้ยังไม่รู้ใครเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าประชาธิปัตย์ จะไม่ร่วมกับเพื่อไทยและอนาคตใหม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไปรวมได้อย่างไร วันนี้ยังไม่ถึงเวลา ไม่มีการพูดคุยและไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นคนตั้งรัฐบาล เราจะไปพูดล่วงหน้าทำไม พูดไปก็เกิดปัญหาอีก
ส่วนกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค แสดงความกังวลถึงการเลือกหัวหน้าพรรคว่าจะมีความขัดแย้ง และปัจจัยภายนอกเข้ามาแทรกแซงนั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีความขัดแย้ง ชื่อมั่นว่าในส่วนของตนไม่มีการแทรกแซงแน่นอน รวมถึงผู้สมัครทั้ง 3 ด้วย แต่ที่ตนเป็นห่วงมากกว่าคือ การแทรกแซงจากภายในพรรค.