'บิ๊กตู่'ปัดจัดที่นั่งรัฐบาลใหม่ อุบ'บิ๊กป้อม-บิ๊กป้อก'ติดโผครม.
การเมือง
“ถ้าเราพูดกันไปกันมา จนเลวร้ายไปทั้งหมดก็ไม่เกิดอะไรดีขึ้นมาเลย รวมถึงประเทศก็ไม่ได้อะไร ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่มีความสุข ขณะที่ต่างประเทศก็ขาดความเชื่อมั่น ผมจึงไม่รู้ว่าเสนอข่าวกันไปทำไม คนนั้นคนนี้พูดอย่างเหมือนตีลูกปิงปองที่ตีกันไปมา ท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส.แบบยบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เตรียมร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ ฐานยอมให้พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามาร่วมพิจารณาจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครอยากร้องก็ให้ร้องไป ตนไม่ได้ห้าม แต่ต้องดูข้อเท็จจริงและกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องหลายกรณีตนไม่เคยไปตอบโต้ แต่ให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้อย่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย โดยเฉพาะการพูดกันไปมา สื่ออย่าไปขยายความมากนัก เพราะหลายคนไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่กลับวิพากษ์วิจารณ์ต่อกัน และเชื่อกันไปมา จนทำให้วุ่นวายไปหมด ย้ำว่าตนและรองนายกฯยังไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลกับใคร เพราะยังไม่ได้เป็นายกฯและรองนายกฯ และขณะนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง จึงขอให้เกียรติกับพรรคการเมืองด้วย เชื่อว่าหลายคนมีความตั้งใจในการแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ซึ่งตนได้รับฟังแนวคิดและนโยบายมา ก็เห็นว่าเป็นเรื่องดีๆทั้งนั้น ดังนั้นก็สุดแล้วแต่ประชาชน และสุดแล้วแต่การประชุมทั้ง 2 สภา
“ขอร้องอย่างเดียว วันนี้เราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น จะเขียนเฟซบุ๊กหรือเขียนโซเชียลให้รุนแรง ชมหรือว่ากันไปมาก็ไม่เกิดอะไรกับประเทศเลย แม้กระทั่งการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งทุกคนคาดหวังว่าเราต้องมีรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลหน้าต้องเป็นรัฐบาลที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพราะทุกคนได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน จึงคิดว่าทุกคนตั้งใจ และคิดใหม่ทำใหม่ให้ได้ เหมือนที่เราพยายามทำมาตลอด 5 ปี และไม่อยากให้หลายอย่างเกิดขึ้นแบบเดิมๆอีก ผมไม่เคยไปให้ร้ายใคร และคิดว่าทุกคนมีความตั้งใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนให้เกียรติทุกท่าน”นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่การวิพากษ์วิจารณ์รายชื่อส.ว.ที่มองว่าเป็นคนใกล้ชิดนายกฯและพล.อ.ประวิตร จึงมองว่าไม่ต่างจากสภาผัวเมีย โดยพล.อ.ประยุทธ์ หันกลับมาตอบทันทีว่า ให้เทียบ5 ปีที่ผ่านมากับก่อนหน้านั้นว่าทำได้มาน้อยแค่ไหน ซึ่งออกกฎหมายมากว่า 500 ฉบับแล้ว และก่อนหน้าที่ออกมาได้กี่ฉบับ และได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที.