'ปิยบุตร'เตือนส.ว.โหวต"บิ๊กตู่"ส่อขัดม.114
การเมือง
นายปิยบุตร กล่าวว่า โรดแม็พสู่ส.ว.เพื่อการสืบทอดอำนาจเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อมีการรัฐประหาร ต้องมีเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจเสมอคือ ส.ว.แต่งตั้ง พรรคการเมือง และรัฐธรรมนูญ เช่น ฉบับ 2492 2511 และ 2521 คือเครื่องมือสืบทอดอำนาจ เอาข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มานั่งส.ว. พอมาถึงรัฐประหาร 2557 พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ส่งหนังสือถึงกรธ.ต้องการให้ส.ว.แต่งตั้ง สปช.ก็ตั้งคำถามพ่วงเสนอให้สนช.ถามตอนประชามติ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2559 ซึ่งตนขอเรียกว่าเป็น ระบบส.ว.ผลัดกันเกาหลังคนละทีสองที 250 ส.ว.แบ่งเป็น 3 ก้อน 6 คนจากผู้นำเหล่าทัพ 50 คนจากการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ ใช้เงิน 1.3 พันล้านบาท แต่งหน้าทาปาก ให้ดูเหมือนประชาชนคัดมา ก่อนจะให้คสช.ให้ความเห็นชอบ และ 194 คนจากการสรรหา ที่มีพล.อ.ประวิตรเป็นประธาน และคสช.เป็นกรรมการ ซึ่งไม่เคยเห็นชื่อเลยว่าสรรหาใครบ้าง สุดท้ายก็ให้คสช.เป็นผู้เคาะส.ว.ทั้งหมด ผลที่ได้คือเป็นทหาร 93 คน ตำรวจ 14 คน ซึ่งก็คือพรรคพวกเก่าๆคนที่เคยทำงานกับคสช. อย่าง สปช. สปท. ซึ่งก็คือคนที่ได้รับประโยชน์จากการยึดอำนาจ
นายปิยบุตร กล่าวว่า ส.ว.บางส่วนที่ถูกแต่งตั้ง บางคนเคยเป็นมาตั้งแต่สนช. 2549 ส.ว.สรรหา 2550 สนช. 57 และส.ว.60 หากอยู่จนครบวาระ 5 ปี หมายความว่า คนเหล่านี้ได้นั่งในสภาใช้อำนาจนิติบัญญัติอย่างต่อเนื่องโดยนั่งอยู่เฉยๆแล้วมีคนเชิญให้เป็นส.ว.เกือบ 20 ปี ได้เป็นสมาชิกสภาจากการแต่งตั้ง โดยไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ได้ใช้อำนาจนิติบัญญัติของประชาชน การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชน 51 ล้านคน เลือกส.ส.ได้ 500 คน แต่พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวได้ตั้งส.ว. 250 8น ส.ส.1 คนจะต้องได้ 7.1 หมื่นเสียง ก็หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวมี 17.7 ล้านเสียง แล้วรัฐธรรมนูญเขียนว่า ส.ว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ปัญหาคือ ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง แต่ถามว่า 250 ส.ว. เป็นผู้แทนได้อย่างไร เมื่อปวงชนชาวไทยไม่ได้เลือก ไม่ได้แม้แต่รู้รายชื่อ ส.ว.ไม่ใช่ผู้แทนปวงชนชาวไทย แต่ส.ว.เป็นผู้แทนของคสช.
นายปิยบุตร กล่าวว่า มาตรา 114 ของรัฐธรรมนูญเขียนว่า ส.ส.และส.ว.ต้องไม่อยู่ในความผูกมัดครอบงำภายใต้อาณัติมอบหมายของใคร แล้วส.ว.แต่งตั้งอยู่ภายใต้อาณัติมอบหมายครอบงำโดยคสช.หรือไม่ ทั้งยังระบุด้วยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของส.ส.และส.ว.ต้องไม่ขัดกันโดยผลประโยชน์ เมื่อถึงการเลือกนายกฯขอให้จับตาว่า ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของคสช. จะกลับมาเลือกพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯหรือไม่ ถ้าใช่ จะถือว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ ในเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ตั้งมา แต่วันแรกที่ใช้อำนาจกลับมาเลือกพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกจะขัดมาตรา 114 หรือไม่ รัฐประหารไม่อาจอยู่ได้ชั่วกัลปาวสาน อย่างไรต้องเลือกตั้ง ซึ่งคณะรัฐประหารต้องอุ่นใจว่าจะกลับมาได้อีก เมื่อตั้งพรรคการเมือง ดึงส.ส.แล้ว ยังต้องมีอาวุธสำคัญคือวุฒิสภา กลไกสืบทอดอำนาจของคสช. โดยงบประมาณแผ่นดินมหาศาล เพื่อแต่งหน้าทาปาก เอาวงวานว่านเครือ วงศาคนาญาติของคสช.
"ปรากฎการณ์แบบนี้ต้องเรียกว่า อุกอาจและท้าทายอำนาจประชาชนมาก เหมือนบอกว่าพวกอั๊วจะเอาแบบนี้ จึงขอเรียกร้องให้ส.ว.เคารพประชาชน อายประชาชนบ้าง รัฐธรรมนูญทุกฉบับบอกว่า ประชาชนทุกคนที่ช่วยทำมาหากินเสียภาษีเป็นเจ้าของอำนาจ แต่กลับเอาภาษีมาให้คนสืบทอดอำนาจ อยากให้คนไทยที่จ่ายภาษีเป็นเงินเดือนให้ส.ว.พวกนี้ ร่วมกันส่งเสียงออกไปดังๆให้ส.ว. 250 คน ให้การใช้อำนาจหน้าที่ครั้งแรกในสภาไปในทางที่หยุดการสืบทอดอำนาจของคสช. ต้องไม่ลืมว่าวันนี้ได้เป็นส.ว.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีอำนาจกดดันคุณได้อีกแล้ว ดังนั้นจงใช้อำนาจหน้าที่ของคุณเพื่อพิสูจน์ว่า คุณเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ผู้แทนคสช. จะใช้อำนาจโดยไม่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามมาตรา 114" นายปิยบุตรกล่าว
เมื่อถามว่า หากส.ว.อ้างว่าโหวตพล.อ.ประยุทธ์โดยใช้วิจารณญาณ ไม่ถูกครอบงำ นายปิยบุตร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้ง แล้วไปเลือกพล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าขัดกันหรือไม่ วันนี้ทุกคนปรามาสเต็มไปหมด วันนั้นก็ควรแสดงให้ประจักษ์ รายชื่อ 250 ส.ว. ไม่ใช่เรื่องเป็นไปตามคาดหมายหรือไม่คาดหมาย แต่เป็นเรื่องผิดปกติ ที่ไม่ควรมีเลย ไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ.