พท.ติวเข้มส.ส.ระวังข้อกฎหมาย เชื่อไร้งูเห่าเลือดใหม่
การเมือง

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สำหรับการอบรม ส.ส.ใหม่ในครั้งนี้ อยากให้ ส.ส.เข้าใจกฎกติการวมทั้งข้อกฎหมายในรัฐธรรมนูญ รวมถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่และข้อควรระวัง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ ซึ่ง ส.ส.ใหม่ต้องพึงระวัง ทั้งนี้ ทางพรรคจะจัดอบรม ส.ส.ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยอยากให้ ส.ส.ใช้เทคโนโลยีสื่อสารกับประชาชนให้มากที่สุด
ด้านนายภูมิ เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เราเชิญส.ส.ใหม่ของพรรคมาพูดคุยกัน ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของพรรค ก่อนที่วันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.) จะประชุมส.ส.ทั้งหมดของพรรค ทั้งที่ต้องเข้าไปอยู่ในสภาและคนที่ต้องทำงานนอกสภา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้ผู้ใหญ่ของเราหลายคนไม่มีโอกาสเข้าไปทำงานในสภาได้ แต่การอยู่ข้างนอกก็สามารถแสดงบทบาทในการที่จะช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากปัญหาที่เผชิญอยู่ได้ วันนี้เราก็ได้เรียนกับสมาชิกว่าเราเข้ามาทำงานครั้งนี้ เราเข้ามาพร้อมกับข้อจำกัดและอุปสรรค แต่การที่เรามาถึงตรงนี้ได้เพราะประชาชนให้การสนับสนุน และให้ความเชื่อมั่นเรา ดังนั้นขอให้ทุกคนยึดมั่นใจเจตนารมณ์ของประชาชน ยึดเอาสิ่งที่ประชาชนต้องการไว้ในหัวใจในการทำงาน นอกจากนี้เรามาครั้งนี้เพื่อภารกิจสำคัญ เพราะบ้านเมืองเผชิญปัญหามาถึง 4-5 ปีแล้ว สภาเป็นที่ที่สำคัญที่เราจะเข้าไปทำหน้าที่ ทั้งในการสะท้อนปัญหาและแก้ไขปัญหาของงประชาชน และคลี่คลายปัญหาที่เกิดจากกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ

เมื่อถามว่าจะดูส.ส.ใหม่ที่อาจจะยังไม่มีความผูกพันธ์กับพรรคอย่างไรให้ไม่กลายเป็นงูเห่า นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่เคยกังวล เพราะส.ส.ใหม่ที่เข้ามาไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักพรรคมาก่อน แต่เป็นคนที่มีความนิยมและศรัทธาในพรรคการเมือง เพราะพรรคได้พิสูจน์ตัวเองมา ทั้งนี้ตนนมั่นใจว่าฐานสำคัญที่ประชาชนโอบอุ้มเรา จะเป็นกำลังใจให้พวกเขาทำงาน อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าส.ส.ใหม่จะเป็นเลือดใหม่ที่เข้ามาทำงานเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคเพื่อไทยมากขึ้น
เมื่อถามถึงฉายาของโฉมหน้าของส.ว.ทั้ง 250 คน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่อยากไปตั้งฉายา แต่คนที่จะให้ฉายาส.ว. ชุดนี้คือประชาชน ดังนั้นอยากให้ประชาชนช่วยกันดูช่วยกันตรวจสอบ แต่ที่เราดูวันนี้เห็นว่าเป็นเครือข่ายของรัฐบาลปัจจุบัน ยังไม่เห็นบุคคลภายนอกเท่าไหร่ ซึ่งเครือข่ายเหล่านี้เคยมีท่าทีที่เคยต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และที่เราตั้งคำถามไปคือคณะกรรมการสรรหาที่เข้ามาคัดเลือกส.ว. ที่ไม่มีความชัดเจนว่าเป็นกลาง หรือเป็นใครเข้ามาคัดเลือกส.ว. ได้อย่างไร ยิ่งปกปิดยิ่งจะทำให้คนไม่สบายใจเพราะมีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าท่านคัดสรรตัวเองเข้ามาเป็นส.ว. ถ้าไม่จริงก็แจกแจงรายชื่อคณะกรรมการคัดสรรออกมา
เมื่อถามว่าถ้ารายชื่อคณะกรรมการคัดเลือกส.ว. ไปตรงกับรายชื่อส.ว.ที่ออกมาจะถือว่าเข้าข่ายขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องทางกฎหมายที่ต้องว่ากันยาว ฝ่ายประชาธิปไตยของเรา แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับกติกาที่ออกมา แต่เมื่อกติกาเป็นกิตกาแล้วเราก็ไม่สามารถเลือกปฎิบัติหรือไม่ปฎิบัติได้ ดังนั้นก็เป็นเรื่องขององค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ที่จะต้องตีความและถ้าเป็นการขัดต่อกฎหมายก็ต้องมีความรับผิดชอบ ตั้งแต่นายกฯ คนเลือก และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สังคมไทยเราไม่ยินยอมให้ใครมาใช้อำนาจตามอำเภอใจและให้พวกพ้องของตัวเองเข้ามามีบทบาทต่อบ้านเมือง ถ้าเรื่องแค่นี้ไม่สามารถทำให้โปร่งใสได้จะไปแก้ปัญหาอะไรในวันข้างหน้า ที่จะเกิดวิกฤติอีกมากมายได้ ทั้งนี้หากมีอะไรที่ไม่ชัดเจนก็เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะต้องให้เกิดความชัดเจน.