ชงคกก.วัคซีนเพิ่มงบพันล้านฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วัยเรียน
การเมือง
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ เช่น เด็กวัยเรียน และคนทั่วไปนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าวัตถุประสงค์ไม่ใช่เพื่อลดการเสียชีวิต แต่เพื่อลดการเจ็บป่วย และหวังผลลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น เพราะถ้ามองอีกแง่มุมหนึ่งการเจ็บป่วยของเด็กวัยเรียนก็ทำให้เด็กต้องขาดเรียน เรียนไม่ทันเพื่อน บางคนไม่ได้เข้าสอบ และอาจจะกระทบกับการเติบโตได้ ซึ่งก็นับว่าเป็นส่วนสำคัญเหมือนกัน ดังนั้น ขณะนี้ ทางคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้มีการพิจารณาให้วัคซีนในกลุ่มเด็กวันเรียน ในปีงบประมาณ 2563 โดยอาจจะให้เป็นระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ระหว่างนำเสนอให้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ พิจารณา
“เบื้องต้นจำนวนเด็กวัยเรียนจะมีช่วงเวลา 12 ปี คือ ป.1-ม.6 แต่ละช่วงปีจะมีเด็กนักเรียนประมาณ 8 แสนคน ก็เอายอด 8 แสนคูณกับ 12 ช่วงปี เท่ากับว่ามีเด็กวัยเรียนประมาณ 9,600,000 คนที่ต้องได้รับวัคซีน ก็ต้องหาวัคซีนให้เพิ่มอีก 9,600,000 โดส ส่วนราคาวัคซีน ถ้าคิดตามเรตปัจจุบันที่มีการสนับสนุนให้กลุ่มเสี่ยงประมาณ 4 ล้านโดสนั้นราคาประมาณโดสละ 100 บาท ถ้าเราเพิ่มตรงนี้ก็เท่ากับต้องเพิ่มงบส่วนนี้อีกประมาณเกือบพันล้านบาท แต่อย่าลืมว่าวัคซีนยิ่งซื้อมาก ก็ยิ่งราคาถูกลง และตอนนี้ในส่วนของประเทศไทยเองก็มีทั้งภาครัฐ เอกชน ที่มีการนำเข้ามาแบ่งบรรจุในประเทศไทย ที่สำคัญคือองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ก็ได้มีการสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งน่าจะเห็นผลเร็วๆ นี้แล้วคาดว่าจะยิ่งทำให้ราคาวัคซีนถูกลงกกว่าเดิมอีกด้วย” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว.