จับตา'ปชป.'ร่วมฝ่ายไหน หลัง'จุรินทร์'ผงาดนั่งหน.พรรค
การเมือง
โดยเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์ จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคฯ ชุดใหม่ โดยมีแกนนำพรรค ส.ส. อดีตส.ส. ประธานสาขาพรรค และสมาชิกพรรคบางส่วนเดินทางมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ทำให้บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก สำหรับองค์ประชุมผู้มีสิทธิลงคะแนนครั้งนี้มีทั้งหมด 308 คน และในการโหวตเลือกครั้งนี้ ทางพรรคได้ประสานขออุปกรณ์ลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 15 ชุด
ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่วาระการเลือกหัวหน้าพรรค นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุมและเริ่มด้วยการเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งดังกล่าว โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เสนอชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค
ขณะที่ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก เสนอนายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค ตามด้วยน.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม. เสนอชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตรองหัวหน้าพรรค และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองหัวหน้าพรรค เสนอชื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรค
โดยหลังจากที่มีการลงคะแนนโดยใช้อุปกรณ์ลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 15 ชุด เรียบร้อยแล้ว ผลออกมาว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ได้คะแนนสูงสุด 160 คะแนน ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่.
อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าก่อนที่การลงคะแนนจะเริ่มขึ้น นายจุรินทร์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ตอนหนึ่งว่า ตนร่วมอุดมการณ์กับพรรคมาอย่างน้อย 33 ปี ถ้าตนได้รับโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะหยิบยื่นโอกาสให้ทุกคนที่ตั้งใจทำงานทุ่มเทเสียสละให้พรรคโดยไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ฝ่ายไหน หรือเป็นเด็กของใคร นี่เป็นคำสัญญาที่ขอให้ไว้ นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ถึงเวลาต้องเปลี่ยนอย่างมีวุฒิภาวะ อะไรดีต้องรักษาไว้ อะไรสมควรเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน
“หมดยุคซูเปอร์แมน ยุคต่อไปต้องเป็นยุคของอเวนเจอร์ ซุปเปอร์ฮีโร่ของพรรคต้องจับมือเป็นทีมอเวนเจอร์ประชาธิปัตย์ นำทัพเดินไปข้างหน้า นายกรณ์ นายอภิรักษ์ และนายพีระพันธุ์ จะเป็นหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ของพรรค แต่แค่นี้ไม่พอเพราะวันนี้ประชาธิปัตย์เหลือแค่ 52 คน หัวหน้าพรรคต้องคิดทำอย่างไรให้เพิ่มจนมากกว่า 200 คน ในอนาคต ซึ่งมีคำตอบอยู่แล้วคือ ประชาธิปัตย์ต้องมีความเป็นเอกภาพ ภายใต้ความร่วมมือร่วมใจของทุกคน มั่นใจว่าประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นได้" นายจุรินทร์ กล่าว
ภายหลังจาก นายจุรินทร์ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ปรากฏว่าได้มีสมาชิกพรรคบางส่วนมอบช่อดอกไม้และขอถ่ายรูปคู่เพื่อแสดงความยินดีกับ นายจุรินทร์ จากนั้นการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่วาระการพิจารณาเลือกกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งต่างๆ เริ่มจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
โดยที่ประชุมได้เลือกนายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีต ส.ส.พิจิตร ให้เป็นรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ
ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคอีสาน นายไชยยศ จิรเมธากร อดีตส.ส.อุดรธานี ได้รับการคัดเลือก
ส่วนตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคกลาง คือนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรค
สำหรับรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้นั้น ที่ประชุมเลือกนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้
ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม.นายองอาจ คล้ามไพบูรณ์ ได้รับเลือกให้เป็นรองหัวหน้าพรรค ภาคกทม.
ต่อด้วยการพิจารณาชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นเลขาธิการพรรค โดยมีเพียง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับคะแนนเสียงรับรองจากสมาชิกเช่นเดียวกัน
กระทั่งเมื่อเวลา 20.22 น.ายจุรินทร์ กล่าวกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลังได้รับการคัดเลือกให้นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า วันนี้นับเป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตทางการเมืองของตน ขอถือโอกาสนี้ได้ขอบคุณหลายท่าน ที่มีส่วนสำคัญทำให้ตนได้เติบโตทางการเมืองมาถึงวันนี้ ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศและขอบคุณเพื่อนสมาชิกประชาธิปัตย์ทุกคนที่ให้ชีวิตทางการเมืองกับตน ขอขอบคุณ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ได้ยืนยันต่อสู้ให้ตนได้มีโอกาสลงสมัครส.ส.ในปี2529 จนกระทั่งตนได้มีโอกาสนับหนึ่งในทางการเมือง
“ผมขอขอบคุณสมาชิกทุกคนที่เลือกผมและไม่เลือกผม แต่ยังยืนหยัดและมั่นคงกับประชาธิปัตย์ ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ผลการเลือกตั้งวันนี้บอกกับเราว่า อย่างน้อยที่สุดในรอบ 73 ปีของประชาธิปัตย์ ผมเป็นหัวหน้าพรรคคนแรกที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอย่างยาวนานที่สุดอย่างน้อยถึง 33 ปี แต่อีกด้านก็ยังบอกว่าขอเพียงเราอดทนมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก็พร้อมให้โอกาสเราเสมอ ในฐานะหัวหน้าพรรคผมขอเรียกร้องพวกเราทุกคนได้ร่วมกันเสียสละกำลังกาย สติปัญญา กำลังความคิด เพื่อร่วมมือร่วมใจ จับมือกันพาประชาธิปัตย์ของเราสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง นายจุรินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าจับตาหลังจากนี้นั่นก็คือ"พรรคประชาธิปัตย์"ภายใต้การกุมบังเหียนของ "จุรินทร์"จะมีการนำพาพรรคไปทางทิศไหน โดยเฉพาะสังคมกำลังจับตาว่าสุดท้ายแล้ว"ประชาธิปัตย์"จะยืนหยัดเคียงข้างกับฝ่ายประชาธิปไตย หรือตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ส่งเทียบเชิญมาถึงหัวกระไดพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับประเคนตำแหน่งรัฐมนตรีให้ 7 ที่นั่งเท่าๆกับพรรคภูมิใจไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประชุมใหญ่ปชป.คึกคัก เปิดศึกชิงดำลุ้น'แม่ทัพ'คนใหม่...
'จุรินทร์'คะแนนท่วมท้น นั่งหัวหน้าประชาธิปัตย์คนใหม่...
ศึกชิงรองหัวหน้าภาค'ปชป.'! แบ่งเก้าอี้จบได้ครบแล้ว...
'จุรินทร์'ขอบคุณทุกกำลังใจ ให้โอกาสโตทางการเมือง...