"เฉลิมชัย"ชี้ส.ส.-ส.ว.มีญาณวิถีหยั่งรู้เลือกนายกฯ
การเมือง

สำหรับกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสภาฯ พี่น้องนั้น พล.อ.ต. เฉลิมชัยกล่าวว่า ตนเชื่อว่าประชาชนเข้าใจว่าเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านในหลายเรื่อง ทั้งการปฏิรูปประเทศ การทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ และการบริหารประเทศ รัฐธรรมนูญก็เปลี่ยนผ่าน มีบทเฉพาะกาล ขอให้ดูที่การทำงาน ดังนั้น สิ่งที่จะกดดันคือความตั้งใจมุ่งมั่นทำงานมากกว่า ส่วนหน้าที่ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว มีแค่ในบทเฉพาะกาลที่ได้ผ่านประชามติมาแล้ว สิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นก็น้อมรับและเข้าใจ แต่ก็ขอให้ดูที่การทำงาน
ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ต. เฉลิมชัยกล่าวว่า ตนและส.ว.จะเลือกอย่างไรนั้น ขอให้เชื่อใจในดุลยพินิจและวิจารณญาณ ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.มีญาณวิถีหยั่งรู้ว่าจะต้องทำงานอย่างไร เลือกใครอย่างไร เพราะในการลงคะแนนเลือกนายกฯ สภาฯ จะไม่อนุญาตให้มีการอภิปรายหรือแสดงวิสัยทัศน์ ดังนั้น ผู้เลือกจะต้องมีข้อมูลของตัวเองมาอยู่แล้ว จะไม่มีคืนหมาหอน ยืนยันว่า ไม่คำนึงว่าใครตั้งเรามาหรือใครเลือกเรามา แต่ให้ดูจากผลงานในอดีตและรายชื่อแคนดิเดตนายกฯที่มีอยู่ทั้งหมด เมื่อนำรายชื่อมาไล่เรียงดูแล้ว ญาณวิถีหยั่งรู้ก็จะทำให้เรารู้ว่าต้องเลือกใคร จึงไม่ได้อยู่ในอานัติหรือมีใครมาสั่ง และเชื่อว่าสั่งไม่ได้ จะเลือกคนที่จะบริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น
“เปรียบประเทศไทยเหมือนผ่านการผ่าตัดมา ขณะนี้อยู่ระหว่างพักฟื้น ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ชำนาญ สามารถประสานความร่วมมือของฝ่ายต่างๆ แพทย์คนที่ผ่าตัดคนไข้ก็ยังต้องมาดูแลคนไข้ที่ห้องพักฟื้นต่อไป ไม่ใช่ผ่าตัดเสร็จแล้วล้างมือกลับบ้าน เพราะญาติจะถามหาว่าแพทย์หายไปไหน ไม่มาดูคนไข้ บางทีออกจากห้องพักฟื้นแล้วกลับไปห้องไอซียูก็มี”พล.อ.ต. เฉลิมชัยกล่าว.