ข่าว"เฉลิมชัย"ชี้ส.ส.-ส.ว.มีญาณวิถีหยั่งรู้เลือกนายกฯ - kachon.com

"เฉลิมชัย"ชี้ส.ส.-ส.ว.มีญาณวิถีหยั่งรู้เลือกนายกฯ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ พล.อ.ต. เฉลิมชัย เครืองาม น้องชายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าแสดงตนเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า ยืนยันว่าไม่หนักใจที่เข้ามาเป็นส.ว. เพราะมีประสบการณ์เคยเป็นทั้ง ส.ว.และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)มาก่อน จึงรู้อำนาจและหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ไม่อยากให้มองว่าเป็นสภาฯ พี่น้องเพราะนามสกุล แต่ขอให้ดูที่การทำงาน หรือสามารถสอบถามจากวุฒิสภาปี 2554-2557 ได้ว่า ชื่อนี้ นามสกุลนี้ มีบทบาทการทำงานในสภาฯ เป็นอย่างไร และสมัยที่เป็นสปท.ก็สอบถามได้ว่ามีบทบาทการทำงานในหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ เชื่อว่าตนเป็น 1 ใน 5 คนที่กล้าพูดและชมตัวเองว่าขยันทำงานอย่างเต็มที่ อภิปรายเสนอแนะกฎหมายต่อสภาฯ ทุกเรื่อง จึงกล้าพูดได้ว่าตนมีความตั้งใจในการทำงาน และไม่กังวลหรือกดดันในการทำงานแต่อย่างใด 

สำหรับกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสภาฯ พี่น้องนั้น พล.อ.ต. เฉลิมชัยกล่าวว่า ตนเชื่อว่าประชาชนเข้าใจว่าเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านในหลายเรื่อง ทั้งการปฏิรูปประเทศ การทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ และการบริหารประเทศ รัฐธรรมนูญก็เปลี่ยนผ่าน มีบทเฉพาะกาล ขอให้ดูที่การทำงาน ดังนั้น สิ่งที่จะกดดันคือความตั้งใจมุ่งมั่นทำงานมากกว่า ส่วนหน้าที่ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว มีแค่ในบทเฉพาะกาลที่ได้ผ่านประชามติมาแล้ว สิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นก็น้อมรับและเข้าใจ แต่ก็ขอให้ดูที่การทำงาน

ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ต. เฉลิมชัยกล่าวว่า ตนและส.ว.จะเลือกอย่างไรนั้น ขอให้เชื่อใจในดุลยพินิจและวิจารณญาณ ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.มีญาณวิถีหยั่งรู้ว่าจะต้องทำงานอย่างไร เลือกใครอย่างไร เพราะในการลงคะแนนเลือกนายกฯ สภาฯ จะไม่อนุญาตให้มีการอภิปรายหรือแสดงวิสัยทัศน์ ดังนั้น ผู้เลือกจะต้องมีข้อมูลของตัวเองมาอยู่แล้ว จะไม่มีคืนหมาหอน ยืนยันว่า ไม่คำนึงว่าใครตั้งเรามาหรือใครเลือกเรามา แต่ให้ดูจากผลงานในอดีตและรายชื่อแคนดิเดตนายกฯที่มีอยู่ทั้งหมด เมื่อนำรายชื่อมาไล่เรียงดูแล้ว ญาณวิถีหยั่งรู้ก็จะทำให้เรารู้ว่าต้องเลือกใคร จึงไม่ได้อยู่ในอานัติหรือมีใครมาสั่ง และเชื่อว่าสั่งไม่ได้ จะเลือกคนที่จะบริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น

“เปรียบประเทศไทยเหมือนผ่านการผ่าตัดมา ขณะนี้อยู่ระหว่างพักฟื้น ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ชำนาญ สามารถประสานความร่วมมือของฝ่ายต่างๆ แพทย์คนที่ผ่าตัดคนไข้ก็ยังต้องมาดูแลคนไข้ที่ห้องพักฟื้นต่อไป ไม่ใช่ผ่าตัดเสร็จแล้วล้างมือกลับบ้าน เพราะญาติจะถามหาว่าแพทย์หายไปไหน ไม่มาดูคนไข้ บางทีออกจากห้องพักฟื้นแล้วกลับไปห้องไอซียูก็มี”พล.อ.ต. เฉลิมชัยกล่าว.