ข่าว"อาเซียน"ถกปัญหาหมอกควัน พบแห้งแล้ง-อุณหภูมิสูงขึ้น - kachon.com

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ ห้องลานนาบอลรูม 2 - 3 โรงแรมแชงกรี - ลา จังหวัดเชียงใหม่ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะมนตรีประชาคมอาเซียนของประเทศไทย แถลงข่าวภายหลังการประชุม คณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 21 ว่า ที่ประชุมได้รับรองกรอบการดำเนินงานใน3 แนวทางหลัก ที่นำไปสู่ความหลากหลาย สร้างสรรค์ ยั่งยืน โดยเฉพาะการผลักดันที่สำเร็จเป็นรูปธรรมในการประกาศเป็นปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน 2562 ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทย ซึ่งมีกระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพได้มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าวนี้มาตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562   อาทิ การจัดมหกรรมวัฒนธรรมอาเซียน และจะมีการเปิดตัวหนังสือมรดกอาเซียนมรดกโลก และการประชุมวรรณกรรมอาเซียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งหันและกันในประชาคมอาเซียน และในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. 62 จะมีการจัดกิจกรรมวัฒนธรรมอาเซียนสู่โลก ขณะนี้ประเทศสมาชิกอยู่ระหว่างการสรรหาศิลปินและการแสดง ซึ่งอาจจะเป็นแบบดั่งเดิมหรือร่วมสมัยเพื่อนำไปเผยแพร่ทั้งในประเทศทวีปยุโรป รวมถึงในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมทั้งที่ประชุมยังได้การมีรับรองเอกสารผลลัพธ์สำคัญ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม รวมถึงปัญหาแรงงาน  เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย. 62 นอกจากนี้ได้มีการหารือหารือประเทศสมาชิกอาเซียน ในการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของประเทศ ติมอร์-เลสเต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่างแบบสอบถามและขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะผู้แทนประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียน
 

ด้านนายกุง ฝก รองเลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหยิบยกประเด็นปัญหาหมอกควันขึ้นมาหารือ ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกสารผลลัพธ์สำคัญ แถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยทางเลขาธิการอาเซียน ได้นำประเด็นนี้มาพูดคุยและจะมีการจัดทำพิธีสาร และกฎระเบียบต่าง ๆ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงเอกสารที่เป็นแนวคิดต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้ข้อยุติและยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมาทำให้มีข้อสรุป เพื่อจะบูรณาการถึงการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหานี้มีปัจจัยผูกพันหลายสาเหตุที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น ปัญหาความแห้ง และอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ประเทศต่าง ๆ ได้ตระหนักรู้ปัญหาดังกล่าวนี้และมีการออกมาตรการมาแก้ไขปัญหา แต่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในระดับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องมีความชัดเจน รวมถึงความร่วมมือของประชาชนภาคเอกชน อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ภายใน 1-2 ปี แต่จะต้องมีการแก้ไขผลักดันต่อไประยะยาง และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง.