ข่าว'จุรินทร์'แจกงานรองหัวหน้าปชป.จับมือภท.ต่อรองพปชร. - kachon.com

'จุรินทร์'แจกงานรองหัวหน้าปชป.จับมือภท.ต่อรองพปชร.
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
 เมื่อวันที่ 20 พ.ค.  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ นัดแรก ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตึก 100 ปี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ภายในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีวาระการพิจารณามอบหมายงานให้กับรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคต่างๆ 5 คน และรองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย 8 คน รวมถึงการมอบหมายงานด้านอื่นๆในหลายส่วน  ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะมอบหมายงานให้กับรองเลขาธิการพรรค 15 คน โดยกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมการประชุมอย่างคึกคักและพร้อมเพรียง ทั้งนี้มีกรรมการบริหารพรรคบางส่วนพูดคุยกันถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งอ้างว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคบางคนใช้บารมีแทรกแซงในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา
                
ต่อมาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุม ว่า  ที่ประชุมได้แบ่งงานให้กับรองหัวหน้า และรองเลขาธิการ ซึ่งมีรูปแบบแตกต่างจากที่ผ่านมา มุ่งเน้นให้สอดคล้องกับทิศทางทางการเมือง โดยใช้กลไกหลักในการขับเคลื่อนงานของ คือ 1.กลไกการจัดการด้านการบริหารพรรค ซึ่งมีคณะกรรมการ 10 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค คณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง  คณะกรรมการการต่างประเทศ คณะกรรมการกระจายอำนาจของพรรค คณะกรรมการประสานงานเครือข่ายองค์กรภายนอก  คณะกรรมการประสานงานกิจการสาขา ตัวแทนจังหวัด และสมาชิกพรรค  คณะกรรมการพัฒนาและประสานงานสตรี และคณะกรรมการประสานงานเยาวชนประชาธิปัตย์  และ 2.กลไกบริหารจัดการด้านการเมือง ได้แก่ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่มีหัวหน้าพรรคเป็นประธาน และรองหัวหน้าพรรคทั้ง 5 ภาคร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งจะมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคมาทำงานทางการเมืองทั้ง 5 ภาค  คณะกรรมการด้านเทคโนโลยีของพรรค (สมาร์ท เดโมแครต) ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจทางการเมืองในอนาคต คณะกรรมการประสานงานภายในพรรคหรือวิป เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำงานทางการเมืองของพรรค
               
 นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้ ตนได้มอบหมายงานให้รองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ 8 คน ดังนี้ 1.นายนิพนธ์ บุญญามณี ดูแลงานด้านกิจการสาขาพรรค ตัวแทนจังหวัด และสมาชิกพรรค  2.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รับผิดชอบการประสานงานเครือข่ายองค์กรภายนอก 3.นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รับผิดชอบคณะกรรรมการสมาร์ท เดโมแครต  4.นายอลงกรณ์ พลบุตร รับผิดชอบการขับเคลื่อนงานยุทธศาสตร์ในพื้นที่ต่างๆ  5.นายกนก วงศ์ตระหง่าน ดูแลงานวิจัยพัฒนาและงานด้านวิชาการ  6.นายอัศวิน วิภูศิริ ดูแลงานระดมทุมพรรค  7.นายสรรเสริญ สมะลาภา ดูแลงานกิจการเยาวชนประชาธิปัตย์  8.นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ส่วนคณะกรรมการด้านการกฎหมายของพรรค มีนายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธาน  สำหรับที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคนั้น ตอนนี้มีนายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการพรรค มาที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ด้านยุทธศาสตร์ และนายกษิต ภิรมย์ ที่ปรึกษาฯ ด้านต่างประเทศ รวมถึงตนกำลังทาบทามบุคคลอื่นมาร่วมทีมนี้อีกด้วย  ส่วนคณะโฆษกที่มีนายราเมศ รัตนะเชวง เป็นโฆษก ได้แต่งตั้งรองโฆษกพรรค 4 คน ได้แก่ นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และนพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. อีกทั้งได้มีบุคคลภายนอกมาร่วมงานกับพรรคด้วย อาทิ นายวรเดช วีระเวคิน อดีตเอกอัครราชทูตไทย มาร่วมเป็นกรรมการการต่างประเทศ
เมื่อถามว่าเชิญนายกรณ์ จาติกวณิช และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ มาร่วมทำงานด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ตนเชิญทั้ง 2 คนแล้ว ซึ่งนายพีระพันธุ์แจ้งว่ายินดีที่จะให้ความร่วมมือ แต่ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ขณะที่นายกรณ์ระบุว่าขอเวลาตัดสินใจแล้วจะแจ้งให้ทราบภายหลัง  ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่มีเรื่องความขัดแย้งใดๆ เพราะก่อนการเลือกหัวหน้าพรรค ตนเคยพูดคุยกับนายกรณ์แล้วว่า ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็พร้อมที่จะมาช่วยงานพรรค จึงต้องให้เวลาเขาพิจารณา  เมื่อถามต่อถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคแทรกแซงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ทำให้พรรคเกิดความขัดแย้ง  นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเป็นความขัดแย้ง แต่มองว่านายพีระพันธุ์เป็นคนหนึ่งที่มีความปรารถนาดีต่อพรรค
               
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า จะมีการประชุมส.ส.ของพรรคทั้ง 52 คนนัดแรก ในวันที่ 21 พ.ค.เวลา 13.00 น. เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องงานในสภาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันถึงสถานภาพของพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงจะมีการเลือกบุคคลทำหน้าที่ประธาน ส.ส. อีกทั้งจะพูดคุยกันถึงแนวทางการเลือกประธานสภาฯควรเป็นอย่างไร และพรรคควรเสนอผู้ชิงตำแหน่งนี้ด้วยหรือไม่ ส่วนการที่พรรคควรจะเป็นรัฐบาลหรือไม่นั้น ต้องให้ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและส.ส.พิจารณาความเหมาะสม  อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ทุกอย่างต้องเป็นมติพรรค ซึ่งเรามีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว และคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบ้านเมืองอยู่แล้ว โดยตนไม่คิดว่าใครจะกล้าแหกมติพรรค
รายงานพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ที่ระบุว่ารัฐมนตรีใน 4 กระทรวงสำคัญ คือ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง ควรเป็นของพรรคพลังประชารัฐนั้น ทำให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ยังหลงอำนาจและติดยึดนิสัยทหารที่พูดในลักษณะทุบโต๊ะ เป็นการผิดมารยาททางการเมือง จึงควรให้ฝ่ายการเมืองเจรจากันเอง เพราะตอนนี้ คสช.หมดอำนาจตามกฎหมายไปแล้ว  ทั้งนี้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยได้หารือนอกรอบแล้วว่าจะจับมือไปในทิศทางเดียวกัน เพราะทั้ง 2 พรรคมีเสียงงรวมกันแล้วได้ 103 เสียง สามารถสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลได้ จึงเป็นที่มาของยื้อผลการประชุมของพรรคขนาดกลาง เพื่อรอดูว่าพรรคพลังประชารัฐจะทบทวนการแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญดังกล่าวให้เป็นไปตามความต้องการของพรรคขนาดกลางหรือไม่