ข่าว"บิ๊กตู่"มึนข่าว"เจ้าสัวซีพี"นั่งแท่นนายกฯคนใหม่ - kachon.com

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีมีรายงานข่าวจากสื่อฮ่องกงว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทยคือนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ว่า "ไปเอาข่าวมาจากไหนว่านายกฯคนต่อไปเป็นเจ้าสัวซีพี จะเป็นไปได้อย่างไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีการจัดเก้าอี้รัฐมนตรี ที่ล่าสุดนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์เสนอตัวเป็นรมช.ศึกษาธิการ ว่า ยังไม่คิด ยังไม่คิด วันนี้ทุกพรรคก็กำลังหารือกันเอง อย่าเพิ่งเอาตนเข้าไปเกี่ยวข้องและไปก้าวล่วง ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องไปคุยกันมา ดังนั้นอยู่ที่การพูดคุยกันให้เข้าใจและรู้เรื่องว่าบ้านเมืองต้องการอะไรในขณะนี้ ถ้าทำล่าช้าเกินไปก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นจากต่างประเทศและการค้าการลงทุนจะหยุดชะงัก โดยเฉพาะสงครามการค้าก็เกิดขึ้นในขณะนี้ จึงต้อง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับต่างชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลคนภายในของเราเอง ซึ่งความขัดแย้งหากทุกคนยังคิดเป็นซ้ายหรือขวาโดยไม่หาทางตรงกลางมาร่วมมือกันก็ไปไม่ได้ในทุกเรื่องและทุกรัฐบาล

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ได้มาขอคำปรึกษาในการจัดคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เขาคุยกันมาสิ ถ้าเขาคุยกันได้เรื่องเสร็จแล้วก็ขึ้นอยู่กับนายกฯท่านใหม่ ก็ต้องเอาที่เขาคุยกันมาให้นายกฯตัดสินใจ ผมยังตัดสินใจไม่ได้เพราะยังไม่ได้เป็นและเขาก็กำลังคุยกัน ขณะนี้ผมคิดว่าบางพรรคเพิ่งจะประชุมอะไรกัน มันยังไม่ได้ข้อยุติทั้งสิ้น" 

เมื่อถามต่อว่า มองการจับขั้วของพรรคพลังประชารัฐที่มีมากกว่า 10 พรรคอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องมองให้ดี ถ้ามีหลายพรรคก็อาจจะดีในเรื่องทุกนโยบายที่ไปหาเสียงมาจะถูกนำสู่การปฏิบัติ โดยต้องร่วมมือกันทุกพรรค ถ้าหากทุกคนมุ่งเน้นแต่ตัวเองไม่ได้ ซึ่งตนเห็นตัวอย่างจากต่างประเทศหากจะทำอะไรจะให้ทุกคนเห็นชอบทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะสร้างปัญหาใหม่เกิดขึ้นมา ดังนั้นทุกเรื่องต้องเดินเป็นขั้นตอน ยอมรับว่าที่ทุกคนหาเสียงมาเป็นสิ่งที่ดีๆทั้งนั้น แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่ครม.และรัฐบาลใหม่ซึ่งทุกอย่างไม่ได้ทำงาน เพราะมีกฎหมายทุกตัว และที่ผ่านมาจะเห็นว่าถึงแม้ตนมีอำนาจมากพอสมควรก็ไม่ดันทุรัง บางเรื่องก็ทำไม่ได้ แต่กำหนดเป็นแนวทางไว้ได้ในวันข้างหน้าจึงหวังว่ารัฐบาลใหม่จะทำต่อเนื่อง อะไรที่ดีก็ทำต่อส่วนอะไรที่ไม่ดีก็แก้ไข ตนมองว่าการเมืองควรจะเป็นเช่นนี้ไม่ใช่มุ่งชนะคะคานกัน ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้ไม่ใช่การขายของ ทุกคนมองเป็นการขายของ แล้วใครจะเชื่อมั่นรัฐบาล กลายเป็นการต่อรองเยอะแยะไปหมด แต่เชื่อว่าจะมีการพูดคุยกันรู้เรื่อง

เมื่อถามว่า ชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ ยังนำเป็นที่ 1 ในการเป็นนายกฯอีกสมัย จึงมีคนเสนอตัวเป็นรัฐมนตรีจำนวนมากในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งหมดก็ต้องพูดคุยกันมา พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องพูดคุยกันก่อน ไม่ใช่ใครจะจัดแจงได้ทั้งหมด และเมื่อถามต่อว่า ส่วนกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีส่วนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่นั้น ยืนยันว่าไม่จริง แต่พูดคุยกันว่าสถานการณ์การเมืองเป็นอย่างไร และอะไรที่เราควรทำให้รัฐบาลใหม่ทำต่อ แต่สุดแล้วแต่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามา

เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่า 4 กระทรวงหลักยังเป็นของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมบอกว่าทุกพรรคก็หวังอย่างนั้นละมั้ง" เมื่อถามย้ำว่า เดือนมิ.ย.จะได้รัฐบาลและนายกฯ คนใหม่แน่นอนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า อยู่ที่พวกเราทุกคน ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที