ข่าวภท.-ปชป.ตั้งรัฐบาลขั้วที่3 หากปชช.ค้านก็ทางใครทางมัน! - kachon.com

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. จากกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ทำงานกันอยู่นะครับ ไม่ได้มากินกันเฉยๆ ตามที่ได้พูดไว้ทุกอย่าง” พร้อมปรากฎภาพนายอนุทินกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ รับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านอาหารทีเฮ้าส์ ย่านพระราม6   เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น 

รายงานข่าวแจ้งว่า ประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายหารือคือพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอขั้วที่ 3  เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีจำนวนส.ส. 52 เสียง และพรรคภูมิใจไทยมีส.ส.51 เสียง หากรวมกันแล้วจะได้ส.ส. 103 เสียง โดยสามารถไปเชื้อเชิญพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมรัฐบาลได้ เพื่อเป็นทางออกของประเทศในเวลานี้ เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ขั้วที่ 1 และขั้วที่ 2 ขณะนี้ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ  โดยเฉพาะคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความเห็นไปหลายทิศทาง อาทิ ไม่สามารถไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้ บางกลุ่มก็ไม่สามารถสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งบางคนยังสนับสนุนให้เป็นฝ่ายค้านอิสระ  ขณะที่ฝั่งพรรคภูมิใจไทยก็พบปัญหาหลากหลายไม่ต่างกัน หลังจากการการรับฟังความคิดเห็นของส.ส. ระหว่างการประชุมที่จ.บุรีรัมย์เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ส.ส.บางคนเกรงว่าถ้าไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐก็จะมีปัญหาในพื้นที่ เพราะมีกระแสต่อต้านทหาร หรือบางคนก็บอกว่าไปร่วมรัฐบาลกับฝ่ายไหนก็ได้แต่ขอให้สามารถผลักดันนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง และทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบได้ก็พอ  

ทั้งนี้การหารือดังกล่าวนี้ นายอนุทินและนายเฉลิมชัยจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับพรรคของตัวเองว่าเห็นด้วยกันแนวทางนี้หรือไม่ พร้อมทั้งรับฟังกระแสสังคมควบคู่กันไปในช่วงนี้ว่าจะขานรับแนวทางขั้วที่ 3 ด้วยหรือไม่ หากประชาชนเห็นด้วยและสนับสนุนไปให้ตลอดรอดฝั่งก็เชื่อว่าโอกาสของขั้วที่ 3 ด้วยจำนวนตั้งต้น 103 เสียง จะมีโอกาสเดินหน้าไปได้ที่จะชักชวนพรรคการเมืองต่างๆมาจัดตั้งรัฐบาล   แต่หากสังคมไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยก็แยกย้ายไปตามแนวทางของตัวเองหรือเงื่อนไขที่เปิดรับในการร่วมรัฐบาลหรือสุดท้ายต้องเป็นฝ่ายค้าน.