ข่าว"โอ๊ค" ขึ้นศาลคดีฟอกเงินกรุงไทย'เพื่อไทย'แห่ให้กำลังใจ - kachon.com

"โอ๊ค" ขึ้นศาลคดีฟอกเงินกรุงไทย'เพื่อไทย'แห่ให้กำลังใจ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 23 พ.ค. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี นายพานทองแท้ ชินวัตรบุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาศาลซึ่งนัดตรวจหลักฐานในคดีฟอกเงินทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษดามหานคร เป็นเช็ค 1ฉบับจำนวนเงิน 10 ล้านบาท โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยอาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยะชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย, นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย, นายนพดลปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผลอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ มาร่วมให้กำลังใจนายพานทองแท้ ทั้งนี้ นายพานทองแท้ เดินทางมาพร้อมกับน้องสาว น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ หรือเอม กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ได้ยกมือไหว้สวัสดีทักทายกลุ่มแกนนำพรรคที่มาให้กำลังใจและเพื่อนสนิทก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี

นายภูมิธรรม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลว่า 7 พรรคเราคุยกันเกือบทุกวันในสถานการณ์ขณะนี้ 7 พรรคเราเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ก็ต้องยืนยันว่าจนถึงวันนี้ 245 เสียง ยังแข็งแรง ไม่มีปัญหาอะไรขณะนี้ก็ใกล้วันเข้ามาแล้ว ยังยืนยันในข้อตกลงทั้ง 7 พรรคเหมือนเดิม ก็พยายามพูดคุยกับพรรคอื่นๆ วันนี้เราไม่ได้เร่งรัดอะไร เราทราบดีว่าทุกพรรคต่างรู้ว่าประเทศกำลังต้องการการตัดสินใจ เวลาก็รอถึงวันที่ 25 พ.ค. เป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจว่า ส.ส. ที่ได้รับเลือกมาจะตัดสินใจไปในทิศทางไหนอย่างไร ตรงนั้นจะชัดเจน

เมื่อถามว่าการเจรจากับพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยคืบหน้าหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังเชื่อว่าทั้งหมดที่คุยกันมีความคืบหน้าไปในทางที่ดี หลายส่วนก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันในแต่ละพรรคแต่ละส่วนของตัวเอง ความคิดเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ต่างฝ่ายต่างมีความเห็นหลายส่วน ก็ต้องรับฟังกันให้กว้างขวางที่สุด เราต้องการทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนทั้งหมดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ คือทางออกของประเทศชาติที่ดีที่สุดจริงๆ เพียงแต่ว่าวันนี้เราอยู่ในช่วงของการต่อสู้ทางจิตวิทยา มีคนพยายามจะบอกว่าเรียบร้อยแล้วทุกวัน ตนรอเพียงตั้งโต๊ะนั่งแถลงข่าว มีหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคจับมือกัน อย่างนั้นถือว่าทุกอย่างยุติ วันนี้ยังเป็นแค่พยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเองก็พูดไปได้ทุกวัน

นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า ที่ทางพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) บอกว่ายุติ เรียบร้อยแล้ว ตนนับยังไงก็ได้ 130เสียง นับพรรคเล็กรวมให้แล้ว ของเราชัดเจน 245 เสียงส่วนพรรคที่เหลือมีท่าทีชัดเจนก่อนการเลือกตั้งว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อ และใช้เรื่องนี้หาเสียงเลือกตั้งเป็นทิศทางหลักมาตั้งแต่ต้น ตนก็ยังไม่เชื่อว่าพรรค พปชร. จะสามารถรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ การที่บอกว่าตัวเองพร้อมจะเป็นนายกฯ ได้แน่นอน หวังพึ่งเสียง ส.ว. ตนเรียนแล้วว่าต้องพยายามสะท้อนเจตนารมณ์ประชาชน ที่ประชาชนสะท้อนผ่านการเลือกตั้ง ส.ว. โดยมารยาทต้องทำหน้าที่สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนให้มากที่สุด ทั้งนี้ ถ้าชัดเจนในวันที่ 25พ.ค. สะท้อนเจตนารมณ์ของพรรคการเมือง 7 พรรคสามารถร่วมมือพรรคอื่นอีกเลือกประธานสภาได้ จากนั้นก็เลือกนายกฯ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่าการที่เสียงของ ส.ว. จะทำให้ได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เราไม่ได้ไปสรุปแทนคนอื่นว่าเขาจะได้ข้างมากข้างน้อย เราพูดในหลักการชัดเจนตั้งนานแล้วว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งมั่นคงต้องได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แม้จะพยายามใช้วิธีการพิเศษพิสดารในการได้มาซึ่งนายกฯแล้วไปจัดตั้งรัฐบาล เสียงข้างน้อยจะทำงานไม่ได้ เพราะการบริหารทั้งหมด การออกกฎหมายต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร เรื่องจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีเสียงเกิน 251 เสียงขึ้นไปจะมีปัญหามาก และทำให้ประเทศยิ่งเสียโอกาสไปเรื่อยๆ ผู้ที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย และไม่เป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาประเทศ อย่าฝืนความเป็นจริงของธรรมชาติ หรือฝืนความต้องการของพี่น้องประชาชน วันที่ 25 พ.ค. ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร เสียงเรียกร้องจากสาธารณชนต้องการให้การเมืองอยู่ในสภาวะปกติที่จะเอื้อประโยชน์กับประชาชนโดยรวมต้องจับตาดูวันที่ 25 พ.ค. อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งคนชิงตำแหน่งประธานสภาฯหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราได้ทำหน้าที่ในนามของพรรคการเมืองอันดับ 1 ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติเราคงดำเนินการไปตามครรลอง แต่สถานการณ์นี้เราเปิดให้มีการรับฟังความเห็นจากสมาชิกของเราผ่านเว็บไซต์แล้ว ใครสมควรจะเป็นผู้แทนของพรรคที่จะไปดำเนินการอะไรก็ให้เสนอชื่อมา ปิดการเสนอชื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 24 พ.ค. ถ้าชัดเจนแล้ว และอยู่ที่การเมืองในวันเปิดประชุมสภา ถ้าเป็นสภาวะปกติคงเสนอชื่อตัวแทนของพรรคเพื่อไทยที่จะสมัครในตำแหน่งต่างๆ