"ในหลวง" ทรงขอบใจที่ทุกฝ่ายร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
การเมือง

ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ชาติบ้านเมืองสืบไป
ในวาระนี้ ข้าพระพุทธเจ้าและผู้ที่มาร่วมงาน ณ ที่นี้ ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก โปรดอภิบาลรักษาให้ใต้ฝ่าละออง ธุลีพระบาท ทรงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีแผ่ไพศาลไปทั่วทิศานุทิศ สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐิติกาล“
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้อ่านประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง การจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า เลขาธิการพระราชวังรับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก เมื่อวันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 นั้น ทรงชื่นชมโสมนัสอย่างยิ่ง ที่การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้สำเร็จลุล่วงอย่างงดงามสมพระเกียรติ สมเกียรติ ของประชาชนและประเทศชาติ สมตามความหวังตั้งใจของประชาชน และสมตามปรารถนาที่จะทรงแสดงความกตัญญูกตเวทิตา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยทรงคำนึงถึง พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมเสมอมา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เชิญพระราชกระแสขอบใจ และชมเชย ทุกคนทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาล ข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยราชการในพระองค์ จิตอาสา และประชาชน ตลอดจนทุกคนทุกหมู่เหล่าที่มาร่วมพระราชพิธีในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงในต่างประเทศ ซึ่งได้ส่งใจ ยินดี ชื่นชมโดยทั่วกัน ทรงพระราชดำริว่า ความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของทุกคนทุกฝ่ายได้ทำให้การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เป็นระเบียบ สง่างามแสดงให้เห็นถึงศิลปะวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม และทรงคุณค่าของประเทศไทยได้อย่างกระจ่างลึกซึ้ง ทั้งยังสะท้อน ให้เห็นถึงความรักความผูกพันที่ชาวไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทั่วโลกได้ประจักษ์ชัด ถึงความสมัครสมานสามัคคีของชาวไทย นับว่าท่านทั้งหลายได้เชิดชูคุณค่าและเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ทั้งของประเทศชาติและประชาชนชาวไทยได้อย่างยิ่งใหญ่และพิเศษยิ่ง จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน สำนักพระราชวัง 22 พ.ค. พุทธศักราช 2562

