เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. ถึงปัจจุบัน เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 23 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น นครพนม อุดรธานี เชียงราย แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร หนองคาย แพร่ สุโขทัย กาฬสินธุ์ เลย ประจวบคีรีขันธ์ ลำปาง หนองบัวลำภู พิษณุโลก สระแก้ว สระบุรี อุทัยธานี พิจิตร น่าน เชียงใหม่ พะเยา และนครสวรรค์ รวม 76 อำเภอ 169 ตำบล 437 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 3,641 หลัง ผู้บาดเจ็บ 7 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย (ลำปาง) ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งช่วยเหลือค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ระยะนี้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น จึงขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.