'ไอติม'เตือน'ประชาธิปัตย์'ก่อนสาย หยุดสืบทอดอำนาจ
การเมือง
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ส่วนตัว ย้ำจุดยืนส่วนตัวว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอิสระ และไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถ้าใครไม่เห็นด้วยหรือไม่เลือกทางนี้ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าปฏิเสธว่าฝ่ายค้านอิสระไม่มีจริง เพราะในปัจจุบัน กว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ต้องพึ่งเสียงสนับสนุนจากบางพรรคฝ่ายค้านเป็นรายกรณี รวมถึงการที่พรรคฝ่ายค้านมีหลายพรรค และไม่ได้เห็นด้วยกันหมดทุกเรื่อง เป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภา และมีอยู่จริง
นอกจากนี้อย่าผูกขาดกับคำว่า “ทำเพื่อชาติ” เพราะทุกคนที่ไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าพรรคที่เขาเลือกเป็นพรรคที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ และอย่ามองว่าฝ่ายค้านทำประโยชน์ให้กับชาติไม่ได้ เพราะการเป็นฝ่ายอิสระที่ต่อรองนโยบายกับรัฐบาลที่อาจต้องพึ่งเสียงเราในสภาทุกครั้งที่ผ่านกฎหมาย ยังทำให้เรามีโอกาสต่อรองนโยบายได้ดีกว่าการเข้าร่วมรัฐบาล
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า อย่าให้คุณค่ามากจนเกินไปกับคำว่าเสถียรภาพ ถ้าเสถียรภาพเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เราคงไม่เห็นความต้องการของประชาชนที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสูงเท่ากับที่แสดงออกผ่านผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ประเทศไม่ได้ขาดเสถียรภาพ แต่ขาดการตรวจสอบและถ่วงดุลในระบบรัฐสภา ยิ่งไปกว่านั้น การร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐก็จะมีเสียงแค่ปริ่มน้ำ
อีกทั้งเราต้องอย่าปล่อยให้สภาเป็นเพียงเครื่องมือของฝ่ายบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งการที่พรรคพลังประชารัฐขอเลื่อนวาระการเลือกประธานสภาฯ โดยไม่ให้เหตุผลที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ต้องการให้สภาเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็นและเป็นกระบอกเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ตนเข้าใจว่าภาพที่ออกไปทำให้ประชาชนหลายคนอดคิดไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจแล้ว แต่ในเมื่อท่านชวนได้รับเลือกเป็นประธานสภา และพรรคยังไม่มีมติร่วมรัฐบาล ตนหวังว่ายังไม่สายไปที่เราจะตัดสินใจเลือกเป็นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเป็นกลาง และทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระ เพื่อทำให้การเมืองเป็นเรื่องของนักการเมืองที่มาจากเสียงของประชาชน และทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล เพื่อประชาชน และหยุดการสืบทอดอำนาจที่เราอาจยับยั้งไม่ได้ด้วยวิธีอื่นในกรอบของรัฐธรรมนูญ
ขณะที่โลกออนไลน์มีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในกลุ่มแฟนคลับประชาธิปัตย์ ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ทั้งการติดแฮชแท็ก “#ฝ่ายค้านอิสระ” จนติด 1 ใน 10 อันดับของทวิตเตอร์ท็อปเทรนด์ไทย ต่อมายังมีการโพสต์ข้อความอุดมการณ์พรรค 10 ข้อ เพื่อทวงถามจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งข้อ 4 ระบุว่า จะไม่สนับสนุนระบบและวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบหรือวิธีการของรัฐบาลใดๆ อีกทั้งยังได้จัดทำคลิปวีดิโอตั้งคำถามว่า ต้องการสภาแบบไหน ต้องการผู้แทนอย่างไร ผู้แทนปวงชนชาวไทยที่แท้จริง รักษาหลักการไม่ปล่อยให้พวกมากลากไป พร้อมจั่วหัวเรื่องว่า เมื่อ 5 ส.ส.พปชร.ขอแก้มติแบบผิดข้อบังคับโดยนำคำอภิปรายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาฯ ที่มีการอภิปรายคัดค้านไม่ให้ 5 สส.พปชร. แก้มติโดยขัดข้อบังคับการประชุม โดยขอให้นายชัย ชิดชอบ ประธานในที่ประชุม ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมและรัฐธรรมนูญ จนยับยั้งการใช้เสียงข้างมากจากผิดเป็นถูกได้สำเร็จ พร้อมข้อความว่า “support Abhisit สนับสนุนอภิสิทธิ์ 1ใน 3 ล้าน 9” ถูกส่งต่อกันในกลุ่มแฟนคลับประชาธิปัตย์อย่างแพร่หลาย
นอกจากนี้อย่าผูกขาดกับคำว่า “ทำเพื่อชาติ” เพราะทุกคนที่ไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าพรรคที่เขาเลือกเป็นพรรคที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ และอย่ามองว่าฝ่ายค้านทำประโยชน์ให้กับชาติไม่ได้ เพราะการเป็นฝ่ายอิสระที่ต่อรองนโยบายกับรัฐบาลที่อาจต้องพึ่งเสียงเราในสภาทุกครั้งที่ผ่านกฎหมาย ยังทำให้เรามีโอกาสต่อรองนโยบายได้ดีกว่าการเข้าร่วมรัฐบาล
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า อย่าให้คุณค่ามากจนเกินไปกับคำว่าเสถียรภาพ ถ้าเสถียรภาพเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เราคงไม่เห็นความต้องการของประชาชนที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสูงเท่ากับที่แสดงออกผ่านผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ประเทศไม่ได้ขาดเสถียรภาพ แต่ขาดการตรวจสอบและถ่วงดุลในระบบรัฐสภา ยิ่งไปกว่านั้น การร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐก็จะมีเสียงแค่ปริ่มน้ำ
อีกทั้งเราต้องอย่าปล่อยให้สภาเป็นเพียงเครื่องมือของฝ่ายบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งการที่พรรคพลังประชารัฐขอเลื่อนวาระการเลือกประธานสภาฯ โดยไม่ให้เหตุผลที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ต้องการให้สภาเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็นและเป็นกระบอกเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ตนเข้าใจว่าภาพที่ออกไปทำให้ประชาชนหลายคนอดคิดไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจแล้ว แต่ในเมื่อท่านชวนได้รับเลือกเป็นประธานสภา และพรรคยังไม่มีมติร่วมรัฐบาล ตนหวังว่ายังไม่สายไปที่เราจะตัดสินใจเลือกเป็นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเป็นกลาง และทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระ เพื่อทำให้การเมืองเป็นเรื่องของนักการเมืองที่มาจากเสียงของประชาชน และทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล เพื่อประชาชน และหยุดการสืบทอดอำนาจที่เราอาจยับยั้งไม่ได้ด้วยวิธีอื่นในกรอบของรัฐธรรมนูญ
ขณะที่โลกออนไลน์มีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในกลุ่มแฟนคลับประชาธิปัตย์ ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ทั้งการติดแฮชแท็ก “#ฝ่ายค้านอิสระ” จนติด 1 ใน 10 อันดับของทวิตเตอร์ท็อปเทรนด์ไทย ต่อมายังมีการโพสต์ข้อความอุดมการณ์พรรค 10 ข้อ เพื่อทวงถามจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งข้อ 4 ระบุว่า จะไม่สนับสนุนระบบและวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบหรือวิธีการของรัฐบาลใดๆ อีกทั้งยังได้จัดทำคลิปวีดิโอตั้งคำถามว่า ต้องการสภาแบบไหน ต้องการผู้แทนอย่างไร ผู้แทนปวงชนชาวไทยที่แท้จริง รักษาหลักการไม่ปล่อยให้พวกมากลากไป พร้อมจั่วหัวเรื่องว่า เมื่อ 5 ส.ส.พปชร.ขอแก้มติแบบผิดข้อบังคับโดยนำคำอภิปรายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาฯ ที่มีการอภิปรายคัดค้านไม่ให้ 5 สส.พปชร. แก้มติโดยขัดข้อบังคับการประชุม โดยขอให้นายชัย ชิดชอบ ประธานในที่ประชุม ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมและรัฐธรรมนูญ จนยับยั้งการใช้เสียงข้างมากจากผิดเป็นถูกได้สำเร็จ พร้อมข้อความว่า “support Abhisit สนับสนุนอภิสิทธิ์ 1ใน 3 ล้าน 9” ถูกส่งต่อกันในกลุ่มแฟนคลับประชาธิปัตย์อย่างแพร่หลาย