ปชป.นำคำประกาศ"มาร์ค" ตัดสินใจท่าทีพรรค
การเมือง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า พรรคพลังประชารัฐต้องนำหลักการเหล่านี้ไปคุยกันในพรรคแล้วจะนำผลที่ได้แจ้งกลับมาที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งจะนำกลับมารายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในเย็นวันนี้ (28 พ.ค.) ก่อนจะมีการประชุมร่วมระหว่าง ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาการประสานงานทางการเมือง โดยที่ประชุมพรรคจะรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนซึ่งรวมถึงกระแสความไม่เห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาล และกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยประกาศจุดยืนว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และอุดมการณ์ข้อ 4 ของพรรคที่ไม่สนับสนุนเผด็จการ มาเป็นสิ่งสำคัญในการพิจารณาให้ตกผลึก ตนยืนยันว่าจะต้องเคารพเสียงของสมาชิกพรรคทุกคน และเป็นไปตามมติของที่ประชุม กระบวนการที่พรรคทำมีความชัดเจน ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครเสนอโมเดลให้ร่วมรัฐบาล แต่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ร่วมรัฐบาล หรือโมเดลใดๆ
นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีกระบวนการต่อรองกับพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่เรื่องเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และต่อรองเพิ่มโดยการยกประเด็นของแก้รัฐธรรมนูญ ว่า นายธนาธรควรไปศึกษารัฐธรรมนูญให้แตกฉานว่ากระบวนการเลือกประธานสภาฯ เป็นส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ และพรรคประชาธิปัตย์ทำงานอย่างเปิดเผย นายธนาธรต้องเรียนรู้ว่าต้องแยกออกจากกันว่าการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล กับการเลือกประธานสภาฯที่เป็นไปตามมติของสภาฯซึ่งเห็นว่านายชวนเป็นผู้มีศักยภาพและซื่อสัตย์ เหมาะสมกับการทำหน้าที่ดังกล่าวอย่างเป็นกลาง จึงถือว่านายธนาธรดูถูกการดำเนินกิจกรรมของฝ่ายนิติบัญญัติมากเกินไป ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นายธนาธรจะชวนให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับพรรคอนาคตใหม่นั้น ที่จริง พรรคประชาธิปัตย์ควรเป็นฝ่ายชวนพรรคอื่นมาร่วมด้วย เพราะเรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะแก้ไขเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด แตกต่างจากบางพรรคที่จะแก้ไขแบบฉาบฉวย ไม่สนใจประเพณีและวัฒนธรรม.