ข่าวฝนหลวงฯเร่งช่วยพื้นที่เกษตร120ล้านไร่หลังฝนทิ้งช่วง - kachon.com

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 โดยคาดหมายว่าปีนี้ปริมาณฝนรวมของทั้งประเทศจะน้อยกว่าปี 2561 และน้อยกว่า ค่าปกติประมาณ 5-10% นั้น ประกอบกับประเทศไทยมีพื้นที่การเกษตรอยู่ทั้งหมด 149 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในเขตชลประทานประมาณ 30 ล้านไร่เศษ และพื้นที่การเกษตรที่อาศัยน้ำฝนประมาณ 120 ล้านไร่ ซึ่งในช่วงต้นฤดูฝนขณะนี้ ถือเป็นช่วงเวลาของการทำการเกษตรพื้นที่ดังกล่าว แต่เนื่องจากมีบางพื้นที่ของประเทศไทยกำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง คือมีฝนตกไม่ทั่วถึง ฝนตกไม่ต่อเนื่อง และไม่เพียงพอในพื้นที่การเกษตรอาศัยน้ำฝน ดังนั้น กรมฝนหลวงฯจึงเร่งดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวงในบริเวณพื้นที่ที่ประสบปัญหา เพื่อช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่เกษตรอาศัยน้ำฝนไม่ให้เกิดความเสียหาย
ทั้งนี้การเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อน อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ กรมฝนหลวงฯจะมีแผนการดำเนินงานในช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป 

เนื่องจากปัจจุบันมีเขื่อน/อ่างเก็บน้ำ ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ขนาดใหญ่จำนวน 18 แห่ง ขนาดกลางจำนวน 199 แห่ง กรมฝนหลวงฯ จึงได้เร่งปฏิบัติการช่วยเติมน้ำเก็บกักให้กับเขื่อน/อ่างเก็บน้ำดังกล่าว เพื่อให้เพียงพอต่อการบริหารจัดการทำการเกษตรของพื้นที่เกษตรในเขตชลประทานด้วยเช่นกัน

สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (27 พ.ค. 2562) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา จันทบุรี และ สุราษฎร์ธานี ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง พื้นที่เสี่ยงต่อ การขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และพื้นที่ลุ่มรับน้ำ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่บางส่วนของ จ.พิจิตร นครราชสีมา เลย ขอนแก่น หนองบัวลำภู มหาสารคาม นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี และนครศรีธรรมราช รวมถึงเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ขณะที่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ ไม่มีฝนตกจากการขึ้นปฏิบัติการ เนื่องจากกลุ่มเมฆในพื้นที่เป้าหมาย ไม่สามารถพัฒนาตัวเป็นเมฆฝนได้

นายสุรสีห์ กล่าวว่าแผนปฏิบัติการฝนหลวงวันนี้ ยังมีพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ออกประกาศ จำนวน 8 จังหวัด (รวม 18 อำเภอ 62 ตำบล 456 หมู่บ้าน) สถานการณ์น้ำในเขื่อน/อ่างเก็บน้ำแม้ขณะนี้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแต่ยังมีเขื่อน/อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้อยกว่า 30% ได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อวางแผนปฏิบัติการฝนหลวง เพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มรับน้ำและช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย 

ด้านพื้นที่ภาคกลาง ตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จ.นครสวรรค์ จ.ลพบุรี จ.สระบุรี ด้านหน่วยปฏิบัติการฯ จ.กาญจนบุรี ตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำกระเสียว อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเดื่อ และอ่างเก็บน้ำห้วยเทียน
พื้นที่ภาคเหนือ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.เชียงใหม่ จึงตัดสินใจขึ้นบินเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยช้าง อ่างเก็บน้ำแม่ต๊าก ด้านหน่วยปฏิบัติการฯ จ.พิษณุโลก ตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค จ.พิษณุโลก จ.อุตรดิตถ์

พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากที่สนามบินขอนแก่นยังไม่สะดวกให้ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ขอนแก่น ขึ้นบินได้ จึงขอติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน หากสนามบินมีความพร้อมและสภาพอากาศเหมาะสม จะขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สำหรับ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา ได้ขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค จ.นครราชสีมา และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำมูลบน

และพื้นที่ภาคใต้ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.สงขลา จึงตัดสินใจปฏิบัติการเพื่อเติมน้ำพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง ป่าพรุบาเจาะ และพื้นที่การเกษตร จ.นราธิวาส ในส่วนหน่วยปฏิบัติการฯ จ.สุราษฎร์ธานี และ หน่วยปฏิบัติการฯ หัวหิน ขอติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน หากสภาพอากาศเหมาะสมจะขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่มีความต้องการน้ำต่อไป.