เตรียมตั้งผจก.มรดก"ป๋าเปรม" ประสานญาตินำเงินช่วยคนจน
การเมือง
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.เปรมต้องการบริจาคเงินที่สะสมมาจัดทำเป็นโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ว่า ความตั้งใจเดิมของพล.อ.เปรมต้องการทำโครงการที่เกี่ยวกับด้านการศึกษา และอื่นๆ ที่ทันสมัย และถาวร ตนจึงได้ไปปรึกษาพล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานมูลนิธิรักเมืองไทย ทางพล.อ.มงคล ก็คิดว่าน่าจะจัดเป็นโครงการช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจ ซึ่งมีคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์เข้าร่วม โดยนายบัญญัติ จันทร์เสนะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอดีตรมช.มหาดไทย เสนอว่าควรไปจัดสร้างที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งพล.อ.มงคลได้นำข้อคิดเห็นมาหารือกับพล.อ.เปรมแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมีการทำโครงการนี้หรือไม่ และจะจัดตั้งขึ้นที่ใด
พล.อ.พิศณุ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่พล.อ.เปรมจะเสียชีวิตประมาณ 7 วัน พล.อ.เปรมได้เรียกตนไปพบและบอกว่าขอเพิ่มเป็นโครงการที่ช่วยเหลือคนจน จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกษตรที่เป็นเรื่องถาวรด้วย แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพียงแต่เป็นการไปขอความคิดเห็นจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนข้อสรุปคงต้องรออีกสักระยะ ขณะนี้จึงมีสองส่วนคือโครงการศูนย์การแพทย์ และโครงการช่วยคนยากจนก่อน ซึ่งนายวิษณุ บอกว่าอยากให้ทำโครงการช่วยเหลือคนยากคนจนก่อน แต่ถ้ามีข้อติดขัดหรือยากลำบาก ก็จะเป็นโครงการเกี่ยวกับการแพทย์เหมือนเดิม
“เป็นส่วนที่หารือกันไว้พักใหญ่แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินการในช่วงที่ท่านอายุครบ 99 ปี จะขึ้น 100 ปี แล้วท่านก็บอกว่าให้ผมรับเงินไปเลย ผมก็บอกว่าขอไปคิดเรื่องโครงการให้ได้ก่อน และดูว่าใครจะเป็นคนดำเนินการ โดยท่านบอกว่าอยากให้โครงการอยู่ในมูลนิธิที่มีชื่อตัวท่านเองด้วย ผมก็บอกว่าจะมีมูลนิธิรัฐบุรุษฯ พล.อ.เปรมที่มีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธาน กับมูลนิธิสวนประวัติศาสตร์พล.อ.เปรมฯ จ.สงขลา ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน” พล.อ.พิศณุ กล่าว
ส่วนที่บริจาคทำโครงการรวมถึงทรัพย์สินอื่นด้วยหรือไม่ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ กล่าวว่า เฉพาะเงินสดในบัญชีเงินฝากที่พล.อ.เปรมเก็บมาตั้งแต่เป็นนายทหาร นายกรัฐมนตรี และจากตำแหน่งที่ปรึกษาภาคเอกชน ที่ผ่านมาก็จะบริจาคให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนและมาขอความช่วยเหลือ สำหรับการถอนเงินออกมาจากบัญชีเป็นเรื่องขั้นตอนกฎหมาย เพราะเกี่ยวกับเรื่องมรดก คาดว่าไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เพราะเมื่อ 6 เดือนก่อนเคยถามตนว่าควรเขียนพินัยกรรมหรือไม่ ตนก็ไม่ได้ตอบ แต่หลังจากนั้นได้ทำไว้หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ต้องรอญาติเป็นพยานมาตรวจสอบ ขณะนี้ก็หารือกับฝ่ายกฎหมายเรื่องการตั้งผู้จัดการมรดก แต่เบื้องต้นต้องไปสืบดูว่าญาติที่ใกล้ที่สุดเป็นใคร เพราะพล.อ.เปรมไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว ก็ต้องไปดูทางครอบครัวของพี่น้องว่าใครใกล้ที่สุด นักกฎหมายก็บอกว่าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นลูกของพี่ หรือ ของน้องต้องถือเอาคนแรก ส่วนใหญ่ญาติก็อยู่กทม. ซึ่งผู้จัดการมรดกจะเป็นญาติ หรือไม่ใช่ญาติก็ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการโพสต์ข้อความโจมตีพล.อ.เปรมในโซเชียลมีเดียนั้น พล.อ.พิศณุ กล่าวว่า กรณีของผู้เสียหายขณะนี้ไม่มีชีวิตแล้ว เรื่องกฎหมายบ้านเมืองก็ว่ากันไป เห็นควรทำก็ว่ากันไป แต่เราไม่ได้อะไร สิ่งที่โพสต์ออกมาถ้าไม่จริงก็คือไม่จริง ก็พิสูจน์ได้ว่าไม่จริง คนที่โพสต์ก็รู้ว่าเขาบิดเบือนหรือไม่ อย่าโกหกตัวเองจนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ถ้าถามว่าคนที่โพสต์รู้หรือไม่ว่าความจริงคืออะไร ตนคิดว่าคนนั้นรู้ดี แต่เป็นการเมือง.
พล.อ.พิศณุ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่พล.อ.เปรมจะเสียชีวิตประมาณ 7 วัน พล.อ.เปรมได้เรียกตนไปพบและบอกว่าขอเพิ่มเป็นโครงการที่ช่วยเหลือคนจน จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกษตรที่เป็นเรื่องถาวรด้วย แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพียงแต่เป็นการไปขอความคิดเห็นจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนข้อสรุปคงต้องรออีกสักระยะ ขณะนี้จึงมีสองส่วนคือโครงการศูนย์การแพทย์ และโครงการช่วยคนยากจนก่อน ซึ่งนายวิษณุ บอกว่าอยากให้ทำโครงการช่วยเหลือคนยากคนจนก่อน แต่ถ้ามีข้อติดขัดหรือยากลำบาก ก็จะเป็นโครงการเกี่ยวกับการแพทย์เหมือนเดิม
“เป็นส่วนที่หารือกันไว้พักใหญ่แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินการในช่วงที่ท่านอายุครบ 99 ปี จะขึ้น 100 ปี แล้วท่านก็บอกว่าให้ผมรับเงินไปเลย ผมก็บอกว่าขอไปคิดเรื่องโครงการให้ได้ก่อน และดูว่าใครจะเป็นคนดำเนินการ โดยท่านบอกว่าอยากให้โครงการอยู่ในมูลนิธิที่มีชื่อตัวท่านเองด้วย ผมก็บอกว่าจะมีมูลนิธิรัฐบุรุษฯ พล.อ.เปรมที่มีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธาน กับมูลนิธิสวนประวัติศาสตร์พล.อ.เปรมฯ จ.สงขลา ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม เป็นประธาน” พล.อ.พิศณุ กล่าว
ส่วนที่บริจาคทำโครงการรวมถึงทรัพย์สินอื่นด้วยหรือไม่ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ กล่าวว่า เฉพาะเงินสดในบัญชีเงินฝากที่พล.อ.เปรมเก็บมาตั้งแต่เป็นนายทหาร นายกรัฐมนตรี และจากตำแหน่งที่ปรึกษาภาคเอกชน ที่ผ่านมาก็จะบริจาคให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนและมาขอความช่วยเหลือ สำหรับการถอนเงินออกมาจากบัญชีเป็นเรื่องขั้นตอนกฎหมาย เพราะเกี่ยวกับเรื่องมรดก คาดว่าไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เพราะเมื่อ 6 เดือนก่อนเคยถามตนว่าควรเขียนพินัยกรรมหรือไม่ ตนก็ไม่ได้ตอบ แต่หลังจากนั้นได้ทำไว้หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ต้องรอญาติเป็นพยานมาตรวจสอบ ขณะนี้ก็หารือกับฝ่ายกฎหมายเรื่องการตั้งผู้จัดการมรดก แต่เบื้องต้นต้องไปสืบดูว่าญาติที่ใกล้ที่สุดเป็นใคร เพราะพล.อ.เปรมไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว ก็ต้องไปดูทางครอบครัวของพี่น้องว่าใครใกล้ที่สุด นักกฎหมายก็บอกว่าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นลูกของพี่ หรือ ของน้องต้องถือเอาคนแรก ส่วนใหญ่ญาติก็อยู่กทม. ซึ่งผู้จัดการมรดกจะเป็นญาติ หรือไม่ใช่ญาติก็ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการโพสต์ข้อความโจมตีพล.อ.เปรมในโซเชียลมีเดียนั้น พล.อ.พิศณุ กล่าวว่า กรณีของผู้เสียหายขณะนี้ไม่มีชีวิตแล้ว เรื่องกฎหมายบ้านเมืองก็ว่ากันไป เห็นควรทำก็ว่ากันไป แต่เราไม่ได้อะไร สิ่งที่โพสต์ออกมาถ้าไม่จริงก็คือไม่จริง ก็พิสูจน์ได้ว่าไม่จริง คนที่โพสต์ก็รู้ว่าเขาบิดเบือนหรือไม่ อย่าโกหกตัวเองจนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ถ้าถามว่าคนที่โพสต์รู้หรือไม่ว่าความจริงคืออะไร ตนคิดว่าคนนั้นรู้ดี แต่เป็นการเมือง.