'มาดามเดียร์'ชี้ปม'ปารีณา'ไม่กระทบภาพลักษณ์ส.ส.หญิง
การเมือง
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารายงานตัวเป็นส.ส. ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต่อกรณีที่นางปรีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ วิจารณ์การทำงานของน.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ว่า กรณีดังกล่าวผู้ใหญ่ของพรรคได้เรียกนางปรีณา เข้าหารือแต่ตนไม่ทราบว่ารายละเอียดของการพูดคุยมีประเด็นใดบ้าง ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล และเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค ดังนั้นเชื่อว่าการทำงานในสภาฯ จะไม่เป็นปัญหา ทั้งนี้ ส.ส.ทุกคนพึงศึกษาข้อบังคับและระเบียบที่ใช้ในการประชุมสภาฯ โดยมั่นว่า ส.ส.จะปฏิบัติตามกติกาดังกล่าว
“เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่าเหมารวม หรือตีความว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์การทำงานของ ส.ส. หญิงคนอื่นๆ” น.ส.วทันยา กล่าว
น.ส.วทันยา กล่าวอีกว่า ขอความเป็นธรรมกับประชาชน หลังจากที่ตนถูกวิจารณ์ถึงการเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เนื่องจากการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้นเป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมถึงสูตรคำนวณจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยกกต. ได้อธิบายวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างชัดเจนแล้ว ส่วนการวิจารณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้นำคะแนนเฉพาะการเลือกตั้งใหม่ ที่ จ.เชียงใหม่ เขต8 เท่านั้น แต่นำคะแนนเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ของทั่วประเทศมาพิจารณา ซึ่งขณะนั้นพรรคพลังประชารัฐ ควรได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 19 คน แต่ติดปัญหาเรื่องการเลือกตั้งใหม่ ที่จ.เชียงใหม่ ทำให้ กกต. รับรองส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ครบจำนวน 150 คน อย่างไรก็ตามเมื่อกกต. ประกาศรับรอง ส.ส.ครบ 150 คน ต้องน้อมรับสิ่งที่ กกต. ประกาศ
น.ส.วทันยา กล่าวยืนยันว่า ตนไม่กังวลที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าด้วยการถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากก่อนการเลือกตั้ง ตนได้ทยอยขายหุ้นในกิจการสื่อ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เป็นระยะๆ และเป็นการกระทำที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ได้กระทำเป็นความลับ ทั้งนี้ทุกขั้นตอนสามารถตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตต่อกรณีที่นายฉาย บุญนาค สามีเป็นเจ้าของกิจการสื่อมวลชนนั้น ตนยืนยันว่าสามี และ ครอบครัว ปฏิบัติตามระเบียบ ส่วนตนนั้นยืนยันว่าไม่มีความเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในกิจการของสื่อมวลชนใดๆ.
ทั้งนี้ การรายงานตัว ส.ส. เพื่อเตรียมปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ นั้นล่าสุดมีส.ส.ที่ผ่านการรับรองจาก กกต. มารายงานตัวต่อสภาฯ ครบ 500 คนแล้ว.
“เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่าเหมารวม หรือตีความว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์การทำงานของ ส.ส. หญิงคนอื่นๆ” น.ส.วทันยา กล่าว
น.ส.วทันยา กล่าวอีกว่า ขอความเป็นธรรมกับประชาชน หลังจากที่ตนถูกวิจารณ์ถึงการเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เนื่องจากการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้นเป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมถึงสูตรคำนวณจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยกกต. ได้อธิบายวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างชัดเจนแล้ว ส่วนการวิจารณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้นำคะแนนเฉพาะการเลือกตั้งใหม่ ที่ จ.เชียงใหม่ เขต8 เท่านั้น แต่นำคะแนนเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ของทั่วประเทศมาพิจารณา ซึ่งขณะนั้นพรรคพลังประชารัฐ ควรได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 19 คน แต่ติดปัญหาเรื่องการเลือกตั้งใหม่ ที่จ.เชียงใหม่ ทำให้ กกต. รับรองส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ครบจำนวน 150 คน อย่างไรก็ตามเมื่อกกต. ประกาศรับรอง ส.ส.ครบ 150 คน ต้องน้อมรับสิ่งที่ กกต. ประกาศ
น.ส.วทันยา กล่าวยืนยันว่า ตนไม่กังวลที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าด้วยการถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากก่อนการเลือกตั้ง ตนได้ทยอยขายหุ้นในกิจการสื่อ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เป็นระยะๆ และเป็นการกระทำที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ได้กระทำเป็นความลับ ทั้งนี้ทุกขั้นตอนสามารถตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตต่อกรณีที่นายฉาย บุญนาค สามีเป็นเจ้าของกิจการสื่อมวลชนนั้น ตนยืนยันว่าสามี และ ครอบครัว ปฏิบัติตามระเบียบ ส่วนตนนั้นยืนยันว่าไม่มีความเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในกิจการของสื่อมวลชนใดๆ.
ทั้งนี้ การรายงานตัว ส.ส. เพื่อเตรียมปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ นั้นล่าสุดมีส.ส.ที่ผ่านการรับรองจาก กกต. มารายงานตัวต่อสภาฯ ครบ 500 คนแล้ว.