ข่าว"นิพนธ์"เตือนใช้วิธีทหารมาเจรจาพาการเมืองเจอทางตัน - kachon.com

"นิพนธ์"เตือนใช้วิธีทหารมาเจรจาพาการเมืองเจอทางตัน
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.  นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ตกลงจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว   ว่า  ไม่เป็นความจริง พรรคประชาธิปัตย์ยังรอรับแจ้งผลสรุปจากพรรคพลังประชารัฐอยู่ ซึ่งหลังจากที่เขามาเชิญเราเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ติดต่อแจ้งผลอะไรมาให้เราทราบ เราจึงยังไม่ได้ประชุมใดๆ เพราะเขายังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน  เมื่อถามว่าคิดว่าพรรคพลังประชารัฐอาจรอให้มีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จไปก่อนหรือไม่  นายนิพนธ์ กล่าวว่า  เขาคงจะรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน หรืออาจรอให้มีการเลือกนายกฯ เสร็จไปก่อนจึงจะให้คำตอบเรา เพราะตอนนี้เขาถือว่าเป็นผู้กำหนดเกม เป็นแกนหลัก แต่การจะให้เลือกนายกฯเสร็จก่อนแล้วจึงจะจบข้อตกลงตั้งรัฐบาลนั้น ในอดีตเขาไม่เคยทำกัน  แต่ถ้าเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ ต้องบอกกันอย่างเป็นทางการว่ามีเหตุผลความจำเป็นอะไร  ตนคิดว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ต้องเคารพและให้เกียรติกันซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ บางครั้งท่าทีหรือการให้เหตุผลเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกมาพูดกันถึงเรื่องบ้านเมือง  ผู้ทำหน้าที่เจรจาต้องมีศาสตร์และศิลป์ ต้องมีวุฒิภาวะมากพอในการทำเรื่องอย่างนี้ ไม่ใช่ใครก็มาทำได้ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐต้องเป็นผู้ให้ความชัดเจนทั้งเรื่องตัวคนที่มีอำนาจในการเจรจาอย่างแท้จริง และคำตอบในการประสานงานกับเรา จึงขอย้ำว่าให้เขาแก้ปัญหาของเขาให้จบก่อน

เมื่อถามว่าถ้าคนที่มาเจรจาใช้วิธีคิดแบบทหาร จะทำให้การตกลงร่วมจัดตั้งรัฐบาลทำได้ยากใช่หรือไม่  นายนิพนธ์ กล่าวว่า  มันมีความเสี่ยงที่ปลายทางว่าถ้าเขาทำอย่างนั้น แสดงว่าเขากำลังจะพาการเมืองเข้าสู่ทางตันใช่หรือไม่ มันมีทางเลือกว่าถ้าเราไม่ร่วมด้วย เขาจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้วจะเดินไปอย่างไร เขาจะเสนอกฎหมายอย่างไร จะเอาองค์ประชุมมาจากที่ไหน จะทำให้การเมืองไปสู่การยุบสภาใช่หรือไม่ เวลาสภาจะพิจารณาออกกฎหมาย ส.ว.ไม่ได้มาประชุมด้วย ถ้าฝ่ายรัฐบาลมีส.ส.ร้อยกว่าคน ทั้งที่ส.ส.ทั้งหมดมี 500 คน แล้วองค์ประชุมจะเดินหน้าอย่างไร เรื่องอย่างนี้มันต้องดูให้ตลอดทั้งหมด  แต่ถ้าจะคิดเพียงแค่ให้ได้เสียงลงมติเลือกนายกฯ แต่ต่อไปฝ่ายรัฐบาลไม่มีเสียงข้างมาก จะเกิดทางตันขึ้นทันที

“ดังนั้นผู้ที่จะเป็นผู้บริหารต้องดูหมากทั้งกระดาน ไม่ควรดูทีละตา การจะเดินหมากในกระดานไม่ควรคิดเพียงว่าเดินตรงนี้เท่านั้น แต่ต้องดูว่าหมากเกมนี้จะจบลงอย่างไร ผมคิดว่าประเทศไม่ใช่อยู่ที่อารมณ์ของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนจึงต้องมีสติในการแก้ปัญหา ผมไม่เชื่อว่าการตัดสินใจอย่างนั้นจะเป็นทางออกที่ดีต่อประเทศ มันยังมีทางออกอีกเยอะ”นายนิพนธ์ กล่าว.