แจงเดินหน้าเก็บเงินสมทบเพิ่มแบบขั้นบันไดอยู่ระหว่างแก้ก.ม.เพิ่ม
การเมือง
Webmaster
2019-06-04 07:00:00
16
Webmaster
2019-06-04 07:00:00
16
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.)ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาเก็บเงินสมทบประกันสังคมเพิ่มจากเดือนละ 750 บาท เป็นเดือนละ 1,000 บาท ว่า สปส.เริ่มเก็บเงินสมทบ 5 เปอร์เซ็นต์โดยคำนวนจากฐานเงินเดือนต่ำสุดที่ 1,650 บาท เพดานสูงสุดอยู่ที่ 15,000 บาท ทำให้มีการเก็บเงินสมทบสูงสุดอยู่ที่ 750 บาท ต่อเดือน ซึ่งเก็บอัตรานี้มาตั้งแต่ปี 2533 จนถึงปัจจุบันโดยไม่ได้เก็บเพิ่มเลย ในขณะที่แต่ละปีมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ผู้ประกันตนหลายอย่าง อาทิ ค่าทันตกรรม เพิ่มค่าคลอดลูก ค่าทำศพ ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น และปัจจุบันเองยังมีสิทธิประโยชน์อีกหลายอย่างที่ยังมีการเรียกร้องกันอยู่ นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้วประกันสังคมเริ่มเข้าสู่ช่วงที่ต้องมีการจ่ายเงินบำนาญให้ผู้ประกันตน ก็มีการคาดการณ์ว่าหากไม่เก็บเพิ่มในปี 2579 จะทำให้เงินเข้ากองทุนน้อยกว่าเงินที่ต้องจ่ายออก กระทบกับเสถียรภาพของกองทุน
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ดังนั้นที่ผ่านมาทาง สปส.จึงได้มีการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประกันสังคม เพื่อให้มีการเก็บเงินสมทบเพิ่มโดยขยายเพดานจากเดือนละ 750 บาท เป็นเดือนละ 1,000 บาท ข้อดีของการเพิ่มคือทำให้มีเงินไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ให้ผู้ประกันตน และทำให้เพิ่มเงินบำนาญหลังเกษียณด้วย แต่หลังจากที่มีการนำไปรับฟังความเห็นมาแล้ว พบว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงยังไม่ได้เดินหน้าต่อ แต่ไม่ได้พับโครงการไป แต่ต้องมีการทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หลังจากตนเข้ารับตำแหน่ง ได้ให้นโยบายว่าต้องมีการปรับเรตเงินสมทบเพิ่มแน่นอน แต่เพื่อให้ม่กระทบกับแรงงาน ควรทำในลักษณะเป็นขั้นบันได คือค่อยๆ ขยายเพดานเงินเดือนสูงสุดในการคำนวณเงินสมทบ เช่น ปกติ เพดานอยู่ที่ 15,000 บาท ต่อเดือน จะเก็บเงินสมทบเดือนละ 750บาท ปีต่อไปก็ขยายเพดานเป็น 16,000 บาท เก็บสมทบเพิ่มเป็น 800 บาท ต่อเดือน ปีถัดจากนั้นก็เพิ่มเพดานเงินเดือนเป็น 17,000 บาท เก็บสมทบ เพิ่มเป็น 850 บาท ทำแบบนี้ไป ในระยะเวลา 5 ปี ก็สามารถเก็บเงินสมทบได้ เดือนละ 1,000 บาท ตามเป้าหมาย ผู้ประกันตนก็จะได้ไม่รู้สึกว่าต้องจ่ายแบบก้าวกระโดด ส่วนสปส.เองไม้จะไม่สามารถเก็บได้ 1,000 บาทต่อเดือนตั้งแต่แรกเริ่มก็ไม่เป็นไร ดีกว่าออกกฎหมายไปแล้วไม่ได้รับการยอมรับ
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ประดันสังคมอีกรอบให้มีการเก็บเงินสมทบแบบขั้นบันได หากเสร็จแล้วจะมีการนำมารับฟังความเห็นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตรงนี้อาจจะต้องดูนโยบายของรัฐมนตรีแรงงานคนใหม่ และรัฐบาลเช่นกัน ส่วนคณะกรรมการ(บอร์ด สปส.)ชุดนี้ที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ก็ยังสามารถปฏิบัติงานได้ต่อไป จนกว่าจะมีการยกเลิกคำสั่ง.
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ดังนั้นที่ผ่านมาทาง สปส.จึงได้มีการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประกันสังคม เพื่อให้มีการเก็บเงินสมทบเพิ่มโดยขยายเพดานจากเดือนละ 750 บาท เป็นเดือนละ 1,000 บาท ข้อดีของการเพิ่มคือทำให้มีเงินไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ให้ผู้ประกันตน และทำให้เพิ่มเงินบำนาญหลังเกษียณด้วย แต่หลังจากที่มีการนำไปรับฟังความเห็นมาแล้ว พบว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงยังไม่ได้เดินหน้าต่อ แต่ไม่ได้พับโครงการไป แต่ต้องมีการทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หลังจากตนเข้ารับตำแหน่ง ได้ให้นโยบายว่าต้องมีการปรับเรตเงินสมทบเพิ่มแน่นอน แต่เพื่อให้ม่กระทบกับแรงงาน ควรทำในลักษณะเป็นขั้นบันได คือค่อยๆ ขยายเพดานเงินเดือนสูงสุดในการคำนวณเงินสมทบ เช่น ปกติ เพดานอยู่ที่ 15,000 บาท ต่อเดือน จะเก็บเงินสมทบเดือนละ 750บาท ปีต่อไปก็ขยายเพดานเป็น 16,000 บาท เก็บสมทบเพิ่มเป็น 800 บาท ต่อเดือน ปีถัดจากนั้นก็เพิ่มเพดานเงินเดือนเป็น 17,000 บาท เก็บสมทบ เพิ่มเป็น 850 บาท ทำแบบนี้ไป ในระยะเวลา 5 ปี ก็สามารถเก็บเงินสมทบได้ เดือนละ 1,000 บาท ตามเป้าหมาย ผู้ประกันตนก็จะได้ไม่รู้สึกว่าต้องจ่ายแบบก้าวกระโดด ส่วนสปส.เองไม้จะไม่สามารถเก็บได้ 1,000 บาทต่อเดือนตั้งแต่แรกเริ่มก็ไม่เป็นไร ดีกว่าออกกฎหมายไปแล้วไม่ได้รับการยอมรับ
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ประดันสังคมอีกรอบให้มีการเก็บเงินสมทบแบบขั้นบันได หากเสร็จแล้วจะมีการนำมารับฟังความเห็นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตรงนี้อาจจะต้องดูนโยบายของรัฐมนตรีแรงงานคนใหม่ และรัฐบาลเช่นกัน ส่วนคณะกรรมการ(บอร์ด สปส.)ชุดนี้ที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ก็ยังสามารถปฏิบัติงานได้ต่อไป จนกว่าจะมีการยกเลิกคำสั่ง.
