ข่าว'สุเทพ'พร้อมโหวต'บิ๊กตู่'นั่งนายก ไร้เงื่อนไขร่วมรัฐบาล - kachon.com

'สุเทพ'พร้อมโหวต'บิ๊กตู่'นั่งนายก ไร้เงื่อนไขร่วมรัฐบาล
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมแกนนำและแนวร่วม กปปส. เดินทางมาศาลในการนัดสืบพยานโจทก์คดีกบฏ กปปส. โดยนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทยพูดคุยกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า เราสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในในสถานการณ์อย่างนี้ เป็นคนที่มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นที่ประจักษ์ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ เพราะฉะนั้น พรรครวมพลังประชาชาติไทย จึงได้หาเสียงกับประชาชนชัดเจนว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ความจริงเราก็ไม่ได้ยึดติดตัวบุคคลแต่เห็นว่าในช่วงเวลานี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับท่านในการนำพาประเทศผ่านวิกฤตไปได้ 


ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนแล้ว คงต้องถามถึงบุคคลที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์เอง แต่ถ้าหากสุดท้ายเราได้ร่วมงานกันกับทางพรรคประชาธิปัตย์ก็อยากจะบอกว่าในยุคนี้เป็นยุคที่การสื่อสารเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ใครคิดอะไรนิดหน่อยก็ปรากฏไปในสื่อแล้ว ที่จริงมันมีขั้นตอนปฏิบัติระบุไว้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) เป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีโดยรัฐสภา เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปกังวลใจในเรื่องนี้ คอยดูอย่างเดียวว่าสมาชิกรัฐสภาจะลงคะแนนให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เสียงข้างมากในสภาจะลงคะแนนให้ใคร เมื่อมีการเลือกนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ประธานรัฐสภาจะต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อให้ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี หลังจากนี้นายกรัฐมนตรีจึงจะไปดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล จะไปเจรจาหรือชักชวนพรรคไหนมาร่วมรัฐบาล แล้วจะให้ใครบริหารกระทรวงไหน และจะมีนโยบายของรัฐบาลอย่างไร เป็นภาระของคนที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนที่เราเห็นเขาพูดคุยเจรจากันนั้น เป็นการทำไว้ล่วงหน้าก่อนทั้งนั้น แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร สำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทยเราไม่ได้ต่อรองการร่วมรัฐบาลใดๆ ทั้งสิ้น แต่เราก็ตั้งใจว่ามีกำลังความสามารถอย่างไรบ้างที่จะช่วยเหลือสนับสนุนให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เดินหน้านำพาประเทศผ่านวิกฤตไปได้.