เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ห้องประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชามาเป็นนายกฯ ต่อ ก็เหมือนการเอาโจรมาเป็นตำรวจ เอาคนที่เผาวัดมาเป็นเจ้าอาวาส ตนจึงมองว่าพล.อ.ประยุทธ์ขาดคุ
ณสมบัติ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีคุณสมบัติไม่
เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯ เพราะไม่ยึดมั่นในหลักนิติรัฐ และมาตรฐานทางจริยธรรม เพราะลุแก่อำนาจ ใช้มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองแร่ทองอัครา ที่จ.พิจิตร โดยไม่สอบสวนตามกระบวนการนิติ
ธรรม ทำให้บริษัทต่างชาตินำเรื่
องไปฟ้องอนุญาโตตุลาการระหว่
างประเทศ ซึ่งทราบว่ามีการจัดงบ 600 ล้านบาทเพื่อสู้คดีนี้ ถ้าแพ้รัฐบาลไทยต้องชดใช้ค่าเสี
ยหาย 4 หมื่นล้านบาท และเท่าที่ฟังจากนักกฎหมายนั้
นพูดตรงกันว่ารัฐบาลแพ้ล้
านเปอร์เซ็นต์ เพราะใช้อำนาจมาตรา 44 ที่ทั่วโลกไม่ยอมรับไปปิ
ดเหมือง กรณีนี้จึงถือว่าพล.อ.ประยุทธ์
ไม่รักษาผลประโยชน์ประเทศ ประเทศไทยต้องชดใช้ค่าเสี
ยหายไปชั่วลูกชั่วหลาน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยขอจองกฐินกับพล.อ.
ประยุทธ์ โดยเรื่องคุณสมบัติจะต้องยื่
นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่
างแน่นอน
ภายหลังที่ประชุมอภิ
ปรายยาวนานกว่า 5 ชั่วโมงนั้น นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติให้ปิ
ดการอภิปรายเพื่อโหวตเลื
อกนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าใช้เวลาอภิ
ปรายยาวนานพอสมควรแล้ว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย จึงลุกขึ้นตอบโต้ว่า เพิ่งจะอภิปรายได้แค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆ อย่าปิดกั้นการอภิปราย อย่างน้อยต้องขอ 10 ชั่วโมงเพื่
อให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์มีคุ
ณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ ถ้าใครทนฟังไม่ได้ก็ให้
ออกไปนอกห้องประชุม ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานในที่ประชุม ได้ไกล่เกลี่ยโดยขอให้อภิปรายต่
ออีก 2ชั่วโมงแล้วค่อยมาว่ากั
นใหม่ นพ.ระวีจึงยอมถอนญัตติเรื่
องการปิดอภิปราย

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะอดีตรมว.อุตสาหกรรม ได้ลุกขึ้นอภิปรายชี้แจงว่า สิ่งที่นายสุทินพูดนั้นไม่เป็
นความจริง โดยเฉพาะการบอกว่ารัฐบาลจะต้
องจ่ายค่าเสียหายจากการถูกฟ้
องร้องถึง 4 หมื่นล้านบาท เพราะข้อเท็จจริงถูกฟ้องร้องเพี
ยง 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่แตกต่างจากที่
นายสุทิน พูดถึง 10 เท่า อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เป็นสาระสำคัญคือ การที่นายสุทินบอกว่ารั
ฐบาลจะแพ้คดี 100% นั้น ยืนยันว่า รัฐบาลไทยมีโอกาสชนะ เพราะจากการตรวจสอบกับกระทรวงอุ
ตสาหกรรมพบว่า บริษัทดังกล่าวทำผิดเงื่อนไข สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จนทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นเหตุผลให้พล.อ.ประยุทธ์
ต้องสั่งปิดเหมืองแร่ดังกล่าว.