หนาวๆร้อนๆกกต.รับรอง'349ส.ส.' ขู่ตามสอยทีหลังได้
การเมือง
การเมืองกลับมาเข้มข้นทันทีหลังจาก นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยประกาศผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 349 คน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 127 ในการนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงขอแจ้งให้ผู้ได้รับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (ส.ส.6-4) นับแต่วันที่ 7 พ.ค. 2562 เป็นต้นไป ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องประชุม 203 ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธ.ค. 50 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร และสามารถตรวจดูรายชื่อผู้ได้เลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในราชกิจจานุเบกษา และเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้งนี้สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.ect.go.th
ส่วนพรรคที่มี ส.ส. เขตในสภามีทั้งสิ้น 9 พรรค โดยข้อมูลที่ปรากฏต่อสาธารณะนั้นพบว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ครองที่นั่ง ส.ส. เขตในสภาสูงสุด 136 ที่นั่ง (ลดลงไป 1 ที่นั่ง หลังกกต.แจกใบส้ม ว่าที่สส.เชียงใหม่เขต 8), พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 97 ที่นั่ง, ภูมิใจไทย 39 ที่นั่ง, ประชาธิปัตย์ 33 ที่นั่ง, อนาคตใหม่ 30 ที่นั่ง, ประชาชาติ 6 ที่นั่ง, ชาติไทยพัฒนา 6 ที่นั่ง, รวมพลังประชาชาติไทย 1 ที่นั่ง และ ชาติพัฒนา 1 ที่นั่ง
นายแสวง ยังแถลงด้วยว่า โดยการรับรองครั้งนี้ กกต.สามารถไปสอยทีหลังเมื่อพบเหตุได้ เพราะเป็นไปตามกฎหมาย เพราะ เมื่อประกาศรับรองไปแล้ว กกต.ยังมีอำนาจตามกฎหมาย ภายใน 1 ปีสามารถสั่งเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะมีผลเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.พึงมีได้ ทั้งนี้ กกต.จะต้องพิจารณาคำร้องต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้มีเรื่องร้องคัดค้านหลายกรณี ทั้งประเด็นคุณสมบัติ เหตุร้องว่าการเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม รวมแล้วประมาณ 400 เรื่อง ซึ่งได้พิจารณาแล้วเสร็จไปมากพอสมควร
ส่วนกรณีการแจกใบส้มที่เขต 8 จ.เชียงใหม่ เพียงใบเดียว ซึ่งจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 26 พ.ค.นี้นั้น นายแสวง กล่าวว่า เราได้ตรวจสอบเบื้องต้นตามกฎหมายและประกาศผลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส มาตรา 125 และมาตรา 127 เมื่อมีการกล่าวหาเขายังไม่ใช่ผู้กระทำความผิด ต้องให้เขามีโอกาสชี้แจงหลักฐานก่อนว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาเป็นจริงหรือไม่ ส่วนจำนวนที่ประกาศรับรองต้องให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ส่วนที่ว่า การประกาศรับรอง ส.ส.เขต 349 คน จะมีผลให้การรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ครบทั้งหมดหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ต้องดูการคำนวณ ขณะนี้มีพรรคการเมืองที่มีคะแนนบัญชีรายชื่อ จำนวน 74 พรรค ซึ่งคะแนน ณ วันที่ 28 มี.ค. กับคะแนนก่อนวันคำนวณจะแตกต่างกัน เพราะมีการสั่งเลือกตั้งใหม่และนับคะแนนใหม่ในบางหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งสั่งไม่ให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งอีกหลายราย ซึ่งจะมีผลให้คะแนนถูกตัดออก อีกทั้งไม่ทราบว่า การประชุมในวันที่ 5 - 6 พ.ค. ที่ผ่านมา กรรมการ กกต. ได้สั่งให้ผู้สมัครคนใดไม่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มอีกหรือไม่ ถ้ามีก็จะกระทบกับคะแนนและอัตราส่วนบ้าง จึงต้องมีการคำนวณจากคะแนนใหม่ ซึ่งรับรองว่ากกต.จะประกาศรับรองไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.
นอกจากนี้นายแสวง ยังระบุถึงกรณี หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อออกมาเป็นลบ หรือไม่เป็นไปตามที่กกต.กำหนดจะเกิดอะไรขึ้น ว่าในทางการบริหารสำนักงาน ได้เตรียมไว้ทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งออกมาลักษณะใด ก็ต้องมีวิธีการบริหารของสำนักงานเสนอให้ กรรมการกกต. อย่างไรก็ตามต้องดูคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับบรรยากาศการรับรองของกกกต.นั้น ทางสำนักงานกกต.ได้จัดเจ้าหน้าที่มารอมอบหนังสือรับรองให้กับส.ส.ใหม่ทันที ปรากฎว่า นายวันชัย วรรณสว่าง ผู้ได้รับมอบอำนาจจาก นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี เขต 3 พรรคเพื่อไทย นำหนังสือมอบอำนาจ มาติดต่อเพื่อขอรับหนังสือรับรองการเป็นส.ส.ของนายอุบลศักดิ์ แต่ขาดสำเนาบัตรประชาชนของนายอุบลศักดิ์ จึงรอให้ทีมงานรอนำเอกสารดังกล่าวมายื่นเพิ่มเติม ขณะที่ น.ส.จิราภรณ์ สินธุไพร บุตรสาวของ นายนิสิต สินธุไพร อดีตแกนนำนปช. ซึ่งเป็นส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลงสมัครครั้งแรกและได้รับการเลือกตั้งโดยในพื้นที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน ได้เดินทางมาติดต่อขอรับหนังสือรับรอง โดยระบุว่า ได้ทราบข่าวว่ากกต.ประกาศรับรองผลแล้วและสามารถรับใบรับรองผลได้ทันที ตนเพิ่งลงเครื่องและเดินทางมาทำธุระในกทม.จึงมารับใบรับรองก่อน เพราะในวันพรุ่งนี้มีภารกิจในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ส่วนการรายงานตัวต่อสภาฯ จะทำพร้อมกับส.ส.ของพรรค
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดรับการรับรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ชุดที่ 25 ณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา เกียกกาย ชั้น4 ถนนสามเสน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และได้รับหนังสือรับรองได้รับการเลือกตั้งแล้ว
ในส่วนของประเด็น การร้องกกต.ให้มีการตรวจสอบนั้น นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.ที่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นสื่อ อันเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) จำนวน 10 ราย เพื่อขอให้ระงับการประกาศผลการเลือกตั้งไว้ก่อนจนกว่าจะตรวจสอบผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ครบร้อยละ 95 ว่าเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และขอให้รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่จะพิจารณาว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งได้ต่อไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภายหลังระบุทำนองว่า "กกต.ยังมีเวลาพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ถึงวันที่ 24 พ.ค. หรือ 60 วันหลังเลือกตั้ง ไม่ใช่วันที่ 9 พ.ค. กกต.จะปล่อยผ่านไปก่อนแล้วมาตามสอยทีหลังเพื่อให้ถูกใจใครไม่ได้"
ขณะเดียวกัน นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรค เข้ายื่นหนังสือถึง กกต.ทั้ง 7 คน พร้อมพกใบเหลืองจดรายชื่อ กกต. เพื่อขอให้พิจารณาการประกาศผลการรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่ 8 พ.ค. โดยการพิจารณานั้นทาง กกต.ต้องยึดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยนางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า ครั้งนี้พรรคตัดสินใจเข้ายื่นหนังสือถึง กกต.เป็นรายบุคคล เพื่อขอให้กกต. แต่ละคน ทบทวนว่าการคำนวณ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรคต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยพรรคเพื่อไทยเห็นว่าหากคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญจะมีเพียง 16 พรรคเท่านั้นที่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่ถ้ากกต.ยึดนอกเหนือจากกฎหมาย ก็จะส่งผลให้มี 27 พรรคการเมืองที่จะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กรณีหากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่ 8 พ.ค. ออกมาเป็นอย่างไรก็ถือว่าเป็นที่สุด พรรคจะน้อบรับและไม่ก้าวล่วงคำตัดสินของศาล
ด้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า อยากให้กกต. คำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อโดยคิดจากฐานรัฐธรรมนูญ ตามที่มาตรา 91 ระบุ พรรคไหน ไม่ถึง 71,000 คะแนน ก็ต้องเป็นไปตามนั้น หากการใช้อำนาจของ กกต.ทำให้พรรคอนาคตใหม่ หายไป 600,000 คะแนน และ ส.ส. 7 คนรวมถึงคะแนนเสียง และจำนวน ของส.ส.ของพรรคอื่นที่ได้รับผลกระทบ หาก กกต.ใช้อำนาจขัดกับรัฐธรรมนูญนั้นมีโทษทางกฎหมาย ทั้งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยกกต.เอง จะมีบทลงโทษ หนัก ซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยง หากกกต.ใช้อำนาจตีความเอง โดยใช้สูตร 27 พรรค ขอส่งสัญญาณไปว่า หากใช้อำนาจโดยไม่ชอบ จะต้องรับผิดทางกฎหมายด้วย ที่สำคัญคือ จะกระทบกับทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลของพวก และเสียงของประชาชนที่เลือกพวกเขาเหล่านี้ เรื่องนี้เขียนไว้ชัดแล้ว ต้องดำเนินตามกติกา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดชื่อ'349ส.ส.แบ่งเขต' กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง
ร้องกกต.ระงับประกาศผลเลือกตั้ง ชี้มีเวลาถึง24พ.ค
"กกต."ชี้ประกาศรับรองส.ส.เขตก่อน สอยทีหลังได้!
สภาฯเปิดให้ส.ส.ใหม่ชุดที่25รายงานตัวแล้ว
พท.พกใบเหลืองจดชื่อกกต. ย้ำมี16พรรคเท่านั้นที่ได้ส.ส.
อนค.มีเสียวสูตร27พรรคคะแนนหาย6แสน ขู่ส่อขัดรธน.โทษอ่วม