ข่าวแฉอีก!พิรุธคำให้การ'ซีอุย'ขัดแย้ง อวัยวะเหยื่อยังอยู่ครบ - kachon.com

แฉอีก!พิรุธคำให้การ'ซีอุย'ขัดแย้ง อวัยวะเหยื่อยังอยู่ครบ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กำลังรวบรวมข้อเท็จจริงย้อนหลังกว่า 60 ปี เพื่อชี้แจงกับสังคมในคดี นายซีอุย แซ่อึ้ง ทหารหนีทัพชาวจีนโพ้นทะเลที่ถูกสังคมไทยตราหน้าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ 7 คดี ตั้งแต่ปี 2497-2501 หลังโลกโซเชียลมีเดียพบหลักฐานและข้อพิรุธหลายอย่างที่ชี้ว่านายซีอุยอาจตกเป็นแพะรับบาปและไม่เคยเกิดเหตุคนร้ายฆ่าเด็กชำแหละศพตัดเอาหัวใจและตับไปต้มกินอย่างในภาพยนตร์ จึงเรียกร้องให้นำศพนายซีอุยที่ถูกสต๊าฟตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์ศิริราชไปทำพิธีทางศาสนาเพื่อคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น                              
          
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากหนังสือศิลปวัฒนธรรม ฉบับตุลาคม 2546 ได้รวบรวมประเด็นที่น่าสงสัยในคดีนายซีอุยกลับคำให้การอย่างมีเงื่อนงำ โดยยอมรับสารภาพเป็นคนร้ายลงมือฆ่าชำแหละศพขโมยตับและหัวใจด.ญ.ลี่จู แซ่ตั้ง วัย 5 ขวบ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2497 บริเวณสถานีรถไฟสวนจิตรลดา กทม., คดีฆ่าเปลือยชำแหละศพขโมยเครื่องในด.ญ.ซิ่วจู แซ่ตั้ง วัย 5 ขวบ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2500 ในถ้ำองค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม หลังถูกจับกุมในคดีฆ่าชำแหละศพ ด.ช.สมบุญ บุญยกาญจน์ ขโมยตับและหัวใจเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2501 ในสวนยางพารา อ.เมือง จ.ระยอง แล้ว นายซีอุยยังสารภาพได้ก่อเหตุคดีฆ่าเชือดคอด.ญ.หงั่น แซ่ลี้ อายุ 10 ปี เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2497 ใน อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์, คดีข่มขืนเชือดคอฆ่าด.ญ.ลิ้มเฮียง แซ่ลี้ อายุ 9 ปี เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2497 ใน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
            
คดีฆ่าชำแหละศพขโมยเครื่องในด.ญ.นิด แซ่ภู่ อายุ 10ปี เมื่อวันที่10 พ.ค.2497 ในพื้นที่เดียวกัน และคดีคนร้ายใช้มีดแทงคอด.ญ.บังอร  ภมรสุต วัย 8 ขวบ แต่เหยื่อรอดชีวิตพร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่เป็นพิรุธเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2497 ใน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าคนร้ายตัวจริงคือนายเกลี้ยง เป็นพี่ชายเมียปลัดอำเภอที่มีอิทธิพลในพื้นที่ยุคนั้น แต่สติไม่ดีชอบกินของดิบ และมีคนพบชิ้นเนื้อและตับด.ญ.นิด เหยื่ออีกคนอยู่ในกระเป๋ากางเกงของนายเกลี้ยงด้วย ซึ่งคดีจบลงที่ศาลอุทธรณ์ด้วยโทษประหารชีวิตจากคดีด.ช.สมบุญคดีเดียว แต่นายซีอุยถูกสังคมพิพากษาให้เป็นฆาตกรทุกคดี ทั้งที่เกือบทุกคดีสภาพศพเหยื่อยังมีหัวใจและตับอยู่ครบ ไม่ได้หายไปอย่างที่หนังสือพิมพ์ยุคนั้นเสนอข่าวที่ส่งผลให้นายซีอุยกลายเป็นมนุษย์กินคนขึ้นมาทันที 
          
โดยคดีที่ จ.นครปฐม บันทึกคำสารภาพวันที่ 31 ม.ค.2501ระบุว่า “ขณะนั้นมีการแสดงงิ้วในเทศกาลตรุษจีน นายซีอุยพบด.ญ.ซิ่วจูเดินมาคนเดียว จึงชวนไปกินแป๊ะก๊วยที่ข้างวัดพระปฐมเจดีย์ ห่างจากร้านแป๊ะก๊วยเพียง 5 วา อุ้มเด็กโดยใช้มือทั้งสองช้อน มาถึงข้างวัดซึ่งมีต้นจามจุรี 1 ต้น แล้วก็วางเด็กและผลักให้ล้มลงและใช้มือปิดปากไว้ข้างหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็ใช้มีดพับปลายแหลมแทงคออีก จากนั้นก็ลากศพเด็กเข้าไปในถ้ำองค์พระปฐมเจดีย์ทำการผ่าศพในที่ลับตาและตัดเอาตับกับหัวใจมา คงทิ้งศพไว้ที่นั่น” ส่วนสำคัญของคดีนี้เหมือนกับคดีที่กทม. คือนายซีอุยให้การว่า “ได้ตัดตับกับหัวใจใส่กระเป๋ากางเกงกลับบ้าน เมื่อไปถึงบ้านก็ต้มโดยใช้กาน้ำที่หลังบ้านแล้วรีบกิน” ขณะที่หนังสือพิมพ์วันที่ 6 ก.พ.2500 พบว่าคำสารภาพกับเหตุการณ์จริงยังมีข้อความที่ขัดแย้งกันอยู่เช่นเดียวกับคดีที่กทม. เพราะปรากฏว่าอวัยวะต่างๆ ที่นายซีอุยอ้างว่าตัดออกและนำกลับไปกินที่บ้านนั้น ที่จริงยังอยู่กับศพนั่นเอง 
             
ทั้งนี้ ตลอดการถูกควบคุมตัว นายซีอุย คงจะถูกสอบสวนอย่างหนัก จนทำให้ต้องสารภาพเพิ่มเติมว่าเป็นผู้ลงมือในคดีโหดอีก 4 คดี รวม 3 ศพใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่คนร้ายมีพฤติกรรมแตกต่างกันออกไป

จับพิรุธ'ซีอุย'ไม่เคยกินตับเด็ก '60ปี'ที่ถูกหลอกเป็นแพะ                  

เปิดข้อมูลล้างบาป'ซีอุย' โซเชียลรุมจี้คืนความเป็นธรรม