ข่าวลุ้น"ภูมิใจไทย-ปชป." ชิงจับขั้วการเมืองก่อนเปิดสภา - kachon.com

ลุ้น"ภูมิใจไทย-ปชป." ชิงจับขั้วการเมืองก่อนเปิดสภา
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s

ตลอดช่วงวันที่ 19 พ.ต.ที่ผ่านมา กระแสการเมืองไทยยังคงสวิงไปมาตลอด โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ค.นี้ และจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรตามกระบวนการในวันที่ 25 พ.ค.นั้น พรรคภูมิใจไทยได้จัดการประชุมสัมมนา ส.ส. 51 คน ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมโมเดน่า บาย เฟร์เซอร์ จ.บุรีรัมย์ก่อนจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ส.ส.ของพรรค จากนั้น ในวันที่ 20 พ.ค. จะมีการปฐมนิเทศ ส.ส.ของพรรค โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานติวเข้มด้วยตนเอง คาดว่าจะมีการกำหนดท่าทีจุดยืนและทิศทางของพรรคว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะเป็นผู้บรรยายเรื่องบทบาทการทำหน้าที่ส.ส. นอกจากนี้ยังมีการเชิญวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาให้ความรู้เรื่องการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมทั้งมีการประชุมเตรียมการตั้งคณะทำงานของกิจการส.ส.ด้วย 


เช่นเดียวกับกรณีของพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยหลังเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)  ว่า  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เวลา 13.00 น. เพื่อมอบหมายงานให้รองหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคจะมอบหมายงานให้กับคณะรองเลขาธิการพรรค รวมถึงจะมีการแบ่งงานหลายด้าน และแต่งตั้งคณะทำงานด้านต่าง ๆ เพื่อนำทีมอเวนเจอร์สก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มรูปแบบ  จากนั้นจะเรียกประชุมเฉพาะ ส.ส.ของพรรค ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 13.00 น. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเตรียมงานต่างๆที่ต้องทำในสภาผู้แทนราษฎร เพราะมีส.ส.หลายคนที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งมา จึงจะต้องมีการปฐมนิเทศพูดคุยในเรื่องหลักการทำงานต่างๆ เพราะส.ส.ต้องทำหน้าที่ในสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล  ส่วนการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคกับ ส.ส. เพื่อพูดคุยถึงการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันนัดประชุมดังกล่าว แต่ขอให้ประชาชนวางใจพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ได้ว่าจะยึดถือประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง


ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ  ว่า  พรรคประชาธิปัตย์มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน 2 ขั้ว คือ ขั้วของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และขั้วของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค จึงต้องมีการต่อสู้กันทางความคิดเพื่อให้ตกผลึกว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรจะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ โดยรอบแรกคือการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 20 พ.คนี้ จะมีความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าวในระดับหนึ่ง จากนั้นน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น คือหลังจากมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ค.นี้ไปแล้ว จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เพื่อลงมติเลือกประธานสภาฯ ซึ่งจะเป็นดัชนีชี้วัดและเป็นสัญญาณที่จะบ่งบอกว่าระหว่างขั้วของพรรคพลังประชารัฐ กับขั้วของพรรคเพื่อไทย ขั้วไหนที่จะมีโอกาส จัดตั้งรัฐบาลหรือจะได้เปรียบทางการเมืองมากกว่ากัน จึงต้องจับตาดูกันว่าประธานสภาฯคนใหม่จะเป็นใคร ถ้าประธานสภาเป็นคนของพรรคเพื่อไทย ก็แสดงว่าพรรคเพื่อไทยมีความได้เปรียบ


ขณะเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย  โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า  ถ้าเราต้องการได้ประชาธิปไตยกลับคืน ถ้าเราต้องการหยุดการสืบทอดอำนาจเราต้องทวงคืนคะแนนจากบัตรเลือกตั้งของคนที่ ไม่เอาลุงตู่ จากทุกพรรคการเมืองให้ได้ พรรคที่ประกาศนโยบายว่าจะสนับสนุนลุงตู่เป็นนายกฯ ได้คะแนนจากการเลือกตั้ง คิดเป็นจำนวน ส.ส.รวมกันเพียง 120 กว่าคน ในขณะที่พรรคที่ประกาศนโยบายว่าจะ ไม่เอาลุงตู่เป็นนายก ได้คะแนนคิดเป็น ส.ส.รวมกันถึง 297 คน มากกว่าเกินหนึ่งเท่าตัวและในจำนวนนี้ มี 52 คน คือ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ รวมอยู่ด้วย 297:121 คือคะแนนเสียงที่สะท้อนว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นว่าลุงตู่ควรหยุดได้แล้ว และปล่อยให้ประชาธิปไตยได้ไปต่อ ตามมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก  


คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุอีกว่า  ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วันหัวหน้าประชาธิปัตย์ได้ประกาศคำมั่นสัญญากึกก้องว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ และไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจปรากฏมีเสียงปรบมือจากกองเชียร์ดังสนั่น นั่นคือสิ่งที่ยืนยันว่า 3.9 ล้านคะแนนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ คือเสียงของคนที่ไม่ต้องการให้ลุงตู่เป็นนายกฯต่อไป  หลังจากการประกาศแล้ว มีคนถามต่ออีกว่าคำพูดนี้ถือเป็นมติพรรคหรือไม่ เราได้ยินคำยืนยันจากปากหัวหน้าพรรคอีกครั้งว่า ยังไม่มีการประชุมเพื่อลงมติ แต่การไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ และย้ำชัดอีกครั้งว่าคงไม่มีมติพรรคใดขัดต่ออุดมการณ์ของพรรคนั้น  แต่คำพูดของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก่อนการเลือกตั้ง ทำให้คนที่รักประชาธิปไตย และคิดว่าประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ได้ตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว 3.9ล้านคน  การที่พรรคการเมืองได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนอย่างหนึ่ง แล้วจะไปยกมือโหวตลงมติสวนทางกับฉันทานุมัตินั้น ถือเป็นสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณทางการเมือง และขัดต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าการยึดมั่นใน ประชาธิปไตยสุจริต ทุกคำพูดจะต้องตรงไปตรงมา อันจะทำให้พรรคการเมืองไม่มีวันที่จะสวนกระแสในสิ่งที่หัวหน้าพรรคของตัวเองยืนยันกับประชาชน

"การที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบันเรียกประชุมเหล่าอเวนเจอร์ส มากอบกู้พรรคฯ ในสถานการณ์ที่ประชาธิปไตยไทยอ่อนแอยิ่งนัก จะเป็นการกอบกู้ตามอุดมการณ์พรรคที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้ประชาธิปไตยไทยเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่ยอมก้มตัวเองลงเป็นสะพานให้เผด็จการข้ามฝั่งมาเป็นประชาธิปไตย และสืบทอดอำนาจต่อไปได้หรือไม่ เราคงจะได้คำตอบกันในเร็ววันนี้  ขอย้ำว่า 3.9 ล้านคะแนนเสียง ที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์เพราะประกาศว่าจะไม่เอาลุงตู่เป็นนายก คืออัญมณีเม็ดสุดท้ายที่จะต้องนำมารวมเป็น 297 เสียง เหล่าอเวนเจอร์สจากทุกพรรค จึงจะสามารถหยุดยั้งลุงธานอสไว้ได้ การกอบกู้พรรคประชาธิปัตย์ในภาคเอนเกมนี้ จะปิดเกมของฝั่งไหน ปิดเกมของฝั่งเผด็จการสืบทอดอำนาจ หรือปิดเกมฝั่งประชาธิปไตย ขึ้นอยู่กับมติพรรคฯจะออกมาทางใด ประชาธิปไตยของไทย จะเดินหน้าในทิศทางใด ขึ้นอยู่กับอัญมณีเม็ดสุดท้ายที่อยู่ในมือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ชื่อ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ดิฉันหวังว่าท่านหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะเลือกเดินในแนวทางประชาธิปไตยที่ถูกต้อง" คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เสี่ยหนู"เปิดติว 51 ส.ส.ที่บุรีรัมย์พรุ่งนี้
ปชป.ยัน"จุรินทร์"ตัดสินใจยึดประโยชน์ประเทศ
2ขั้ว"จุรินทร์-เฉลิมชัย"เห็นต่างปมร่วมรัฐบาล
"หญิงหน่อย"หวัง"กัปตันอู๊ดด้า" ไม่จับมือ"ลุงธานอส"