ข่าวรอบทสรุปขันหมาก'พปชร.' สู่ขอ'ปชป.'วันนี้รู้'ร่วม-ไม่ร่วม' - kachon.com

รอบทสรุปขันหมาก'พปชร.' สู่ขอ'ปชป.'วันนี้รู้'ร่วม-ไม่ร่วม'
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อการเจรจา ต่อรองจัดสรรผลประโยชน์ทางการเมืองเริ่มลงตัว การเดินสายทางการเมือง หรือที่สังคมมองว่าเป็นการเล่นละครปาหี่ ที่จะต้องแสดงหน้าฉาก ให้สาธารณชนได้เห็น ก็เริ่มต้นขึ้น  โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ ( 27 พ.ค.)บรรยากาศคึกกันตั้งแต่เช้า เมื่อแกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำ อาทิ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายณัฐฎพล ทีปสุวรรณ เดินทางมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเชิญร่วมรัฐบาล  โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายอัศวิน วิภูศิริ นายธนา ชีรวินิจ รองเลขาธิการพรรค ลงมาต้อนรับที่หน้าอาคารมูลนิธิควง อภัยวงศ์ โดยทั้งหมดได้กล่าวทักทายกัน


โดยนายอุตตม กล่าวว่า  ตนและคณะพรรคพลังประชารัฐมาเชิญพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการ เพื่อให้เรามาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเดินหน้าประเทศไทยและเพื่อประโยชน์ของประชาชน วันนี้ เรามาดำเนินการตามธรรมเนียมประเพณีทางการเมืองที่ทำมาตลอด โดยยังไม่พูดคุยถึงตำแหน่งรัฐมนตรี จากนั้นแต่ละพรรคคงจะพูดคุยกันต่อๆไปว่านโยบายนั้นจะมาร่วมกันทำจะขับเคลื่อนกันอย่างไร ส่วนการแบ่งงานในแต่ละกระทรวงจะทำอย่างไรเป็นสิ่งที่พูดคุยกันได้ ส่วนการพูดคุยกันครั้งนี้มีข้อตกลงหรือไม่ว่าต้องสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ถ้าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เราก็คาดหวังว่าเราจะได้รับการสนับสนุนจากเขาในการโหวตซึ่งรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

ต่อมา เวลา 13.00 น. แกนนำพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ ลงมาจากห้องประชุม หลังจากใช้หารือร่วมกันนาน 1 ชั่วโมง 40 นาที โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า  พรรคประชาธิปัตย์ได้เลี้ยงข้าวมันไก่กับก๋วยเตี๋ยวและของหวาน อร่อยทุกอย่าง


ขณะที่นายอุตตม  กล่าวว่า ได้พูดคุยถึงแนวทางการทำงานร่วมกันในฐานะรัฐบาล ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแนวความคิดอย่างไรบ้าง หรือมีสิ่งอื่นใดหรือไม่ที่จะมาใช้ในการทำงานร่วมกัน โดยรวมถือว่ามีข้อสรุปที่ดีในการจะเดินหน้าต่อไปได้  สำหรับนโยบายของทั้ง 2 พรรค ถ้าเอามาเทียบกัน ก็เห็นได้ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  ส่วนเรื่องของรายละเอียด ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเดินหน้าทำงานด้วยกัน โดยพรรคประชาธิปัตย์จะไปหารือภายในพรรค ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็มีงานที่ต้องทำเช่นกัน ขณะที่เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรียังมีเวลาพูดคุยกันในรายละเอียด แต่สิ่งสำคัญคือวันนี้เป็นจุดตั้งต้นที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การหารือร่วมกันต่อไป


ด้านนายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้เราคุยกันแค่ในแง่ของหลักการการทำงานร่วมกัน ว่ามีประเด็นใดบ้างที่เราสามารถทำงานด้วยกันได้ ซึ่งตนได้นำเสนอเรื่องนโยบายและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยในเบื้องต้นได้เห็นพ้องต้องกันว่า สิ่งที่เป็นปัญหาจะถูกนำมาพิจารณาร่วมกันในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพราะหากจะแก้ไขก็ต้องทำในพรรคร่วมรัฐบาล หากมีโอกาสร่วมรัฐบาลกัน ส่วนประเด็นอื่น ๆเราก็จะนำไปพิจารณากันต่อไปในวันข้างหน้า ขอยืนยันว่าแนวโน้มการพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี  และคงจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง เพราะวันนี้คุยกันเฉพาะเรื่องหลักการอย่างเดียว ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์จะให้คำตอบอย่างเป็นทางการกับพรรคพลังประชารัฐนั้นก็มีขั้นตอนที่ต้องทำ เราจะไม่รวบรัดทันที แต่จะไม่ช้าแน่นอน

"การมาเชิญครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 28 พ.ค.นี้ เวลา 17.00น .โดยประมาณ และต่อด้วยการนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมระหว่างสส.และกก.บห. เพื่อตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับเขาหรือไม่ ส่วนที่มีข่าวว่าจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆให้ปชป.นั้น ยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีอะไร และต้องรอให้กระบวนการของพรรคตัดสินใจจะร่วมหรือไม่ร่วมเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงค่อยไปพูดถึงเรื่องตำแหน่ง ตนเป็นแค่คนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แต่ถ้ามติออกมาเป็นอย่างไร ต้องเป็นแบบนั้น วันนี้เขาแค่มาทาบทาม จึงขอให้มีการพูดคุยกันก่อน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ต้องแถลงอยู่แล้ว"นายเฉลิมชัย กล่าว

ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ว่าการร่วมรัฐบาลจะแยกออกจากการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯหรืออยู่ในเงื่อนไขว่าหากร่วมรัฐบาลต้องสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ นายอุตตม กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลคงเข้าใจกันดีว่าถ้ามาร่วมงานด้วยกันเราจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน



กระทั่งเวลา 13.20 น. หลังจากที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐหารือกันเสร็จสิ้นและแยกย้ายกันไปแล้ว  ปรากฏว่านายวัชระ  เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้มายืนยกป้ายที่มีข้อความว่า “ไม่เอาประยุทธ์เป็นนายกฯ” ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าตัวเองไม่เห็นด้วย หากพรรคประชาธิปัตย์จะมีมติไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐที่มีความชัดเจนแล้วว่าจะสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี


ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ส่วนตัว ย้ำจุดยืนส่วนตัวว่า  ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอิสระ และไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง  ถ้าใครไม่เห็นด้วยหรือไม่เลือกทางนี้ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าปฏิเสธว่าฝ่ายค้านอิสระไม่มีจริง เพราะในปัจจุบัน กว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ต้องพึ่งเสียงสนับสนุนจากบางพรรคฝ่ายค้านเป็นรายกรณี รวมถึงการที่พรรคฝ่ายค้านมีหลายพรรค และไม่ได้เห็นด้วยกันหมดทุกเรื่อง เป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภา และมีอยู่จริง   ตนหวังว่ายังไม่สายไปที่เราจะตัดสินใจเลือกเป็นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเป็นกลาง และทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระ เพื่อทำให้การเมืองเป็นเรื่องของนักการเมืองที่มาจากเสียงของประชาชน และทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล เพื่อประชาชน และหยุดการสืบทอดอำนาจที่เราอาจยับยั้งไม่ได้ด้วยวิธีอื่นในกรอบของรัฐธรรมนูญ


จากนั้นเวลา 15.30 น. พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค  และแกนนำพรรค รอต้อนรับ   ทั้งนี้ เมื่อพบหน้ากันแกนนำทั้งพรรคได้สวัสดี และทักทายกัน พร้อมจับมืออย่างแนบแน่นให้ช่างภาพได้ถ่ายภาพ ก่อนจะเดินขึ้นไปหารือกันบริเวณห้องประชุมชั้น 3 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที


จากนั้นนายอนุทิน  และ นายอุตตม  แถลงข่าวร่วมกันถึงการจัดตั้งรัฐบาล โดยนายอุตตม กล่าวว่า ขอขอบคุณหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและคณะ ที่ให้การต้อนรับพรรคพลังประชารัฐอย่างอบอุ่น วันนี้พรรคพลังประชารัฐมาเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยตอบรับเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ทั้ง 2 พรรคได้รับข้อเสนอของแต่ละฝ่าย พวกเราให้เกียรติกรรมการบริหารพรรค ก็จะนำข้อเสนอกลับไปหารือกับกรรมการบริหาร จากนั้นค่อยติดต่อกัน เราเชื่อว่าประเทศไทยขาดรัฐบาลไม่ได้ ถ้ามีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินด้วยความรวดเร็ว ก็จะเป็นประโยชน์ให้ประเทศไม่หยุดชะงัก และยืนยันว่า เราไม่เคยโกหกประชาชน ไม่มีวันโกหก ไม่มีความคิดที่จะโกหกประชาชน หากไปดูคลิป ข้อชี้แจง การให้สัมภาษณ์ หรือแม้แต่การปราศรัย ไม่มีจุดไหนที่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่ตัวเองพูดไว้”

ส่วนข้อเสนอของพรรคพลังประชารัฐ คือเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า พรรคพปชร.ได้เสนอพล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ต้น ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง  ฉะนั้น การเจรจาหารือ เราได้ยืนยันในจุดนี้


ด้าน นายนิกร​ จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคชาติไทยพัฒนา​ ในฐานะผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า  สำหรับการเข้าร่วมรัฐบาลถือเป็นงานของฝ่ายบริหาร​ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนายังไม่มีการดำเนินการใดๆทั้งสิ้น ดังนั้น​จึงยังไม่มีความชัดเจนใดๆ อีกทั้งตามกฎหมายระบุว่า พรรคต้องมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร และมีการนำเสนอชื่อบุคคลที่จะไปดำรงตำแหน่ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามข้อบังคับพรรคด้วยเช่นกัน  ส่วนที่มีการประชุมส.ส.ไปเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการหารือภายในของ​ ส.ส.เพื่อที่จะเป็นแนวทางของพรรคต่อกรณีการทำงานด้านนิติบัญญัติ เพื่อโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้งานทางนิติบัญญัติได้เดินหน้าต่อไป​

หากมีการประสานงานมาที่พรรคชาติไทยพัฒนา เราก็ต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อนำเสนอเรื่องดังกล่าว และหากจะเสนอใครเข้าไปร่วมก็ต้องพิจารณากันในนามของพรรคชาติไทยพัฒนา​ อย่างไรก็ตามขณะนี้พรรคพลังประชารัฐยังไม่มีการทาบทามพรรค แต่อย่างใด  มีเพียงการประสานไปประสานมา​ แต่ที่ชัดเจนนั้นไม่มี พรรคเราเคยเป็นมาหมดแล้วทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ที่ยังไม่เคยเป็นก็คือ​ เป็นพรรคการเมืองที่ดำรงตนอยู่ในสภาพเป็นกลางในสภา​ หรือฝ่ายกลางในสภา​ อันนั้นเรายังไม่เคยเป็น คือไม่สังกัดฝ่ายใด

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า พรรคชาติไทยพัฒนามองว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ เดินสายเทียบเชิญ 2 พรรคใหญ่ร่วมรัฐบาล แต่กลับไม่มีการพูดถึงพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคเล็กๆที่ตกลงร่วมรัฐบาล หากเป็นเช่นนั้นจึงถือว่าไม่ให้เกียรติพรรคเล็กๆ ซึ่งเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตกลงที่นั่งหรือโควต้าเก้าอี้ในรัฐบาลแต่อย่างใด


ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า  ตนอยากเห็นการเมืองไทยเดินหน้าอย่างสร้างสรรค์ ต้องซื่อตรงกับประชาชน ทำในสิ่งที่ตัวเองหาเสียงไว้ เพราะประชาชนเลือกเพราะชื่อว่า พรรคนั้นจะทำอย่างที่พูด ตนจึงขอเรียกร้องไปที่ กรรมการบริหารทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ให้เดินตามสิ่งที่สัญญากับประชาชน


ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย  ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า สินสอดแพง อยู่กันไม่ยืด มองหน้าทะลุใจกลุ่มก๊วนพลังประชารัฐ แล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ที่โดนโก่งราคาค่าตัว "เจ้าสาวการเมือง” จนอ่วมอรทัยแทบหมดตัว วันนี้ แห่ขบวนขันหมากไปหมั้น 2 สาวพร้อมกัน ทั้ง “สาวใต้ “ กับ “สาวสังคม” คงเหลือแค่เศษสตางค์ติดกระเป๋า ไม่พอกลับไปสร้างเรือนหอรอรัก ได้แต่ "หน้าชื่น อกตรม ขมรักกันถ้วนพรรค“ เพราะต้องรักษาหน้าผู้ใหญ่เอาไว้ ที่บังคับให้มาจ่ายค่า “สินสอด ทองหมั้น“ สุดโหด เกินปัญญาจ่าย แถมยังถูกปล้นกลางทางตอนเคลื่อนขบวนขันหมากไปเสียอีกด้วย

นึกถึงหัวอกของเจ้าบ่าวพลังประชารัฐ คงไม่เหลือตำแหน่งเอาไว้สร้างฐานะ เพราะหลากหลายกลุ่มก๊วน ไปถัวเฉลี่ยยังไงก็ไม่ลงตัว หลังตกร่องปล่องชิ้น ย้ายไปอยู่กินด้วยกัน กำลังข้าวใหม่ปลามัน คงต้องปล่อยเลยตามเลย แต่ที่จะให้อยู่ร่วมกันจนหม้อข้าวดำนั้นอย่าได้ไปหวัง เพราะไม่เหลืออะไรติดก้นครัวไว้กินมื้อหน้า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชป.จับมือพปชร.บอกรอมติร่วม-ไม่ร่วมพรุ่งนี้...
"วัชระ"ชูป้าย"ไม่เอาประยุทธ์เป็นนายกฯ"...
'ชาติไทยพัฒนา'ลั่นยังไม่มีมติ ร่วมรัฐบาล'พลังประชารัฐ'...
'ปชป.'ยื่นเงื่อนไข'พปชร.' อยากให้ร่วมต้องแก้รธน.ด้วย...
'ภท.'ตอบรับคำเชิญ'พปชร.' ลั่นไม่เคยโกหกประชาชน...
'ชูวิทย์'ชี้'พปชร.'จ่ายค่าสินสอดแพง สุดท้ายอยู่กันไม่ยืด...
'ไอติม'เตือน'ประชาธิปัตย์'ก่อนสาย หยุดสืบทอดอำนาจ...